กาญจนบุรี - ไอ้หม่องทำทีขอซื้อทอง เจ้าของเผลอฉกวิ่งขึ้น จยย.เจ้าของและพนักงานวิ่งไล่ทำ จยย.ล้ม ก่อนวิ่งตีนเปล่าหนีซุกห้องแถว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองใช้เวลาปูพรมแค่ 1 ชม.เศษ รวบทันควัน ของกลางอยู่ครบ อ้างหาเงินไปหาแฟน
วันนี้ (8 ต.ค.) ร.ต.อ.นวพล กาญจนสาธิต รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.เมืองกาญจนบุรี ว่า เกิดเหตุมีชายวัยรุ่นเข้าไปชิงทรัพย์ภายในห้างทองทรัพย์ทวีโกลด์อาร์ติสท เลขที่ 2/67 ถ.อู่ทอง ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยคนร้ายถูกเจ้าของร้านและพนักงานวิ่งช่วยกันจับตัวจนทำให้รถจักรยานยนต์ที่จอดเอาไว้หน้าร้านล้มลง ส่วนคนร้ายวิ่งหลบหนีไปตามถนนพัฒนากาญจน์ โดยไม่สวมรองเท้า หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดย พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.พิเชษฐชัย จันทร์พรหม รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.วศิน พลายศิริ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.มารุต ฉัตรทัณฑ์ สว.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ต.สุนันท์ เรืองเที่ยง สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ระดมกำลังกันออกติดตามอย่างกระชั้นชิด แต่สุดท้ายคลาดสายตากับเจ้าหน้าที่
ต่อมาไม่นานนักเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสจากพลเมืองดีว่า พบเสื้อยืดแขนยาวสีดำแบบคลุมหัวและกางกางยีนส์ขายาวของคนร้ายถูกถอดทิ้งเอาไว้ภายในป่าละเมาะข้างบ้านเรือนประชาชนซอยโรงเรียนอนุบาลกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบ จากนั้นจึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งจากการที่คนร้ายถอดเสื้อผ้าทิ้งเอาไว้ เจ้าหน้าที่จึงเชื่อได้ว่าคนร้ายคงหลบหนีไปได้ไม่ไกลนัก
ดังนั้น จึงกระจายกำลังขอเข้าตรวจค้นบ้านเรือนของประชาชนทุกหลังที่อยู่ในละแวกนั้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกครอบครัวเป็นอย่างดี และในที่สุดเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษเท่านั้น พบคนร้ายนุ่งกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว เข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านเช่าซึ่งเป็นห้องแถว 2 ชั้นแต่ไม่มีผู้อาศัยอยู่ เมื่อคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ได้พยายามหลบหนีมาที่ชั้นล่างแต่หนีไม่พ้นเพราะถูกเจ้าหน้าที่ปิดล้อมเอาไว้หมดแล้ว
หลังจากจับกุมตัวเอาไว้ได้คนร้ายรายดังกล่าวได้ไหว้ขอโทษเจ้าหน้าที่ว่าผมทำผิดพลาดไปแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงสอบถามว่าซ่อนทองเอาไว้ที่ไหน คนร้ายจึงนำเจ้าหน้าที่ขึ้นไปบนนชั้นที่ 2 พบว่าสร้อยข้อมือทองคำน้ำหนักรวม 2 บาท ถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยเสื้อสีดำ ระหว่างเจ้าหน้าที่คุมตัวไปชี้จุดที่ถอดเสื้อทิ้งเอาไว้นั้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ คนร้ายตอบเพียงสั้นๆว่าต้องการหาเงินไปหาแฟนที่อยู่ต่างจังหวัดโดยที่ไม่ยอมปริปากอะไรอีกเลย
หลังจากเจ้าหน้าที่นำตัวไปชี้จุดทิ้งเสือผ้าแล้ว จึงนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ห้างทองทรัพย์ทวี โดยมีนายโชติ มนัสปิยะเลิศ เจ้าของร้านทองผู้เสียหายยืนรออยู่พร้อมด้วยครอบครับบุตรหลาน และพนักงานร้าน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาทำแผนประกอบคำรับสารภาพประมาณ 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ จากนั้นจึงคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ทราบชื่อคือนายโซนาย (ไม่มีนามสกุล) อายุ 25 ปี ชาวพม่า พกบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 5 ต.ไผ่ต่ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี
ทั้งนี้ นายโชติ มนัสปิยะเลิศ เจ้าของร้านทองผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายเข้ามาทำทีขอซื้อทอง ครั้งแรกเลือกทองเส้นละ 2 สลึง จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นสร้อยเส้นละ 1 บาท ระหว่างที่เลือกดูอยู่นั้นคนร้ายได้คว้าเอาสร้อยข้อมือทองคำ 2 เส้นที่เอามาให้เลือกวิ่งหนีออกจากนร้านไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้าน เมื่อตนเห็นจึงตัดสินใจวิ่งตามพร้อมกับดึงตัวเอาไว้จนรถจักรยานยนต์ของคนร้ายล้ม จากนั้นคนร้ายได้วิ่งเท้าเปล่าหนีไปตามถนนพัฒนากาญจน์ อย่างรวดเร็ว หลังจากตั้งสติได้จึงรีบโทร.แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยกันสกัดจับ สำหรับทองน้ำหนัก 2 บาท มูลค่ารวมกันจำนวน 82,900 บาท
ทั้งนี้ ต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็วและทันใจ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งประทับใจของผมเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังสร้างความมั่นคงและความเชื่อมั่นในตัวของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ได้อย่างสมเกียรติ ที่สำคัญทำให้เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างเราได้เป็นอย่างดี
ด้าน พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เบื้องต้นอยากจะฝากไปถึงผู้ประกอบการร้านทองรวมทั้งร้านค้าต่างๆ ว่าขณะที่กำลังค้าขายอยู่นั้นขอให้มีความระมัดระวังเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น ด้วยการสังเกตดูพฤติกรรมของผู้ที่มาซื้อขาย หากพบมีพฤติกรรมน่าสงสัยต้องให้ระวังมากขึ้น
ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็วในครั้งนี้ต้องขอขอบคุณและชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรีทุกนาย ที่ดำเนินการได้ตามมาตรการป้องกันเหตุชิงทรัพย์ของ สภ.เมืองกาญจนบุรีได้อย่างเข้มแข็งและรวดเร็ว เบื้องต้นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุจะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ต่อไป แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน เพื่อหาสาเหตุและแรงจูงใจอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนนายมนัส มนัสปิยะเลิศ ประธานชมรมผู้ค้าทองจังหวัดกาญจนบุรี และที่ปรึกษาสมาคมผู้ค้าทองคำแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ต้องขอชื่นชมการทำงานโดยเฉพาะท่านผู้กำกับ และทีมงานที่สามารถติดตามจับตัวคนร้ายที่มาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ที่ร้านทองทรัพย์ทวีได้อย่างรวดเร็วภายในแค่ 1 ชั่วโมงเศษเท่านั้น ทำให้รู้ว่ามีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม