ชัยนาท - ชัยนาทน้ำท่วมขยายวงกว้าง เกษตรกรต้องเดินลุยน้ำที่ท่วมสูงไปเก็บข้าวโพด เพื่อนำไปขายเป็นรายได้ไว้ใช้ช่วงน้ำท่วม ขณะที่น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้านกรมชลประทานได้เพิ่มการส่งน้ำเข้าระบบชลประทานสองฝั่งเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อลดปริมาณน้ำ
วันนี้ (7 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ม.4 และ ม.7 ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ได้ขยายวงกว้างมากขึ้น เนื่องจากคันดินที่ทำกั้นน้ำไว้บริเวณ ม.4 ได้พังลงมา ทำให้น้ำหลากท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเพิ่มมากขึ้น น้ำท่วมสูงประมาณ 40-50 เซนติเมตร ชาวบ้านต้องขนย้ายสิ่งของ รถยนต์ รถจักรกลการเกษตร และสัตว์เลี้ยงโคกระบือหนีน้ำไปไว้บนถนน เกษตรกรต้องเดินลุยน้ำไปเก็บข้าวโพดหวานที่กำลังให้ผลผลิต และต้องเร่งมือเก็บให้หมดภายใน 2 วัน ก่อนที่ข้าวโพดจะถูกน้ำท่วมตาย
นายถวิล จากโพชน์ อายุ 67 ปี เกษตรกร ต.ธรรมามูล เปิดเผยว่า ปลูกข้าวโพดหวานไว้ 2 ไร่ กำลังให้ผลผลิต และเตรียมจะเก็บขาย แต่ถูกน้ำท่วมเสียก่อน วันเดียวน้ำท่วมไร่ข้าวโพดสูง 50 เซนติเมตร โชคดีที่น้ำยังท่วมไม่ถึงฝักข้าวโพด จึงต้องเร่งมือรีบเก็บให้หมดภายใน 2 วัน ก่อนที่น้ำจะท่วมสูงขึ้น แม้จะลำบากต้องเดินลุยน้ำไปเก็บข้าวโพด ดีกว่าปล่อยให้เน่าตาย อย่างน้อยได้ผลผลิตส่วนหนึ่งไปขายเป็นรายได้ไว้ใช้ในยามที่น้ำท่วมเช่นนี้
ขณะที่สถานการณ์น้ำเจ้าพระยายังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยวันนี้ เมื่อเวลา 06.00 น. แม่น้ำเจ้าพระยาจาก จ.นครสวรรค์ และแม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี ที่ไหลไปรวมกันด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณ 2,651 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 75 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
กรมชลประทานได้เพิ่มการส่งน้ำเข้าระบบชลประทานสองฝั่งเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จากอัตรา 425 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 452 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนที่ อ.เมืองชัยนาท ลดลงจากเมื่อวาน 2 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 17.29 เมตร(รทก) ส่วนน้ำระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 2,199 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท สูงขึ้นจากเมื่อวาน 13 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 15.10 เมตร(รทก)