ชัยนาท - เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มระบายน้ำเป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที หลังฝนตกทำให้น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นต่อเนื่อง ด้านท้ายเขื่อนจะมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมเพิ่มขึ้น ขอประชาชนเตรียมรับสถานการณ์
วันนี้ (4 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้ระบายน้ำในอัตรา 1,899 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ติดต่อกัน 6 วัน และได้มีการปรับเพิ่มระบายน้ำแบบขั้นบันไดมาตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ จากอัตรา 1,899 เป็น 1,947 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เนื่องจากฝนที่ตกในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง ทำให้มีน้ำไหลลงลุ่มเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ มีปริมาณ 2,265 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 64 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณ 2,324 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้น 49 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนที่ อ.เมืองชัยนาท สูงขึ้นจากเมื่อวาน 39 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 16.02 เมตร(รทก) และในเวลา 09.00 น.วันนี้ เขื่อนเจ้าพระยาจะปรับเพิ่มระบายน้ำขึ้นอีกเป็น 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ซึ่งสูงขึ้นจากเมื่อวาน 56 เซนติเมตร จะมีระดับสูงขึ้นอีก 15 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 14.49 เมตร(รทก) ต่ำกว่าตลิ่ง 1.85 เมตร
ซึ่งการระบายน้ำในอัตรา 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะส่งผลให้น้ำที่ท่วมอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับเพิ่มสูงขึ้น และจะมีน้ำเริ่มเอ่อท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ที่วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี และ อ.เมือง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี วัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวเตรียมรับสถานการณ์น้ำที่เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ กรมชลประทานจะควบคุมการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาไม่เกินอัตรา 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป