ศูนย์ข่าวศรีราชา - ท่าเรือแหลมฉบัง การท่าเรือแห่งประเทศไทย จัดพิธีมอบเงินค่าชดเชยเยียวยาให้กลุ่มประมงเรือเล็ก และ กลุ่มผู้เพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 ปี งบประมาณ 2567 เกือบ 200 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 จาก ทั้งหมด 6 ปี
วันนี้ (4 ต.ค.) นายวีกิจ มานะโรจน์ นายอำเภอบางละมุง เรือโทยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมเป็นประธานในพิธีมอบเงินค่าชดเชยเยียวยาให้กลุ่มประมงเรือเล็ก และกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 ปีงบประมาณ 2567 โดยมีนายวีระยุทธ์ สว่างแจ้ง รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง นางสิริมา กีรตยาคม นักบริหาร 14 ประจำผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย คณะทำงานพิจารณาข้อมูลผู้ที่ไดรับผลกระทบจากโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังขั้นที่ 3 ผู้นำชุมชน และผู้ที่ได้รับผลกระทบ ร่วมพิธีมอบเงิน ณ ห้องแตรทอง 1 ศูนย์สวัสดิการท่าเรือแหลมฉบัง
เรือโทยุทธนา กล่าวว่า การท่าเรือแห่งประเทศไทย มีนโยบายการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือแหลมฉบังในการรองรับเรือตู้สินค้าระหว่างประเทศ และเป็นการเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ การขนส่งสินค้าทางทะเล โดยมีการดำเนินการตามมาตรการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย คุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างรุนแรง โครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 (EHIA) ที่กำหนดให้มีการจ่ายค่าชดเชยเยียวยาให้กลุ่มประมงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการต่อเนื่องทั้งหมด 6 ปี โดยปีนี้เป็นปีที่ 4 แล้ว
สำหรับการมอบเงินค่าชดเชยเยียวยาให้กลุ่มประมงเรือเล็ก และกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 181,640,677 บาท กลุ่มประมงเรือเล็กจำนวน 246 ราย ประกอบด้วย 1.กลุ่มประมงเทศบาลตำบลบางละมุง 2.กลุ่มประมงอนุรักษ์บ้านปากคลองบางละมุง 3.กลุ่มประมงบ้านบางละมุง 4.กลุ่มประมงบ้านนาเกลือ 5.กลุ่มประมงบ้านแหลมฉบัง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 103,450,099 บาท กลุ่มผู้เพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่ จำนวน 95 ราย ประกอบด้วย ประกอบด้วย 1.กลุ่มประมงบ้านบางละมุง 2.กลุ่มประมงอนุรักษ์บ้านปากคลองบางละมุง
เรือโทยุทธนา เผยอีกว่า ในฐานะผู้แทนการท่าเรือแห่งประเทศไทย ท่าเรือแหลมฉบังขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังจนประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ โดยท่าเรือแหลมฉบังมิได้มุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเพื่อขับเคลื่อน เศรษฐกิจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ท่าเรือแหลมฉบัง ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน ด้วยความรับผิดชอบ ใส่ใจต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ขั้นที่ 3 ที่เปรียบเสมือนคนในครอบครัว ดังคำที่ว่า “การท่าเรืออยู่ได้ ประชาชนก็ต้องอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขและยั่งยืน”