ลำปาง - เผยนาทีอุทาหรณ์..วัยรุ่นต่างด้าวชาวไทใหญ่ควบมอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อก เจอด่านตรวจตอนตีหนึ่งกลับไม่ยอมหยุด แถมเร่งเครื่องขี่ จยย.ฝ่าด่านพุ่งชนแผงกั้นหักงอ-ชนรอง สวป.เมืองลำปาง ร่างกระเด็นหัวฟาดพื้นอาการสาหัสอยู่ห้อง ICU
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง และข้าราชการตำรวจในส่วนเกี่ยวข้อง เข้าเยี่ยมอาการของ ร.ต.อ.กล้าหาญ ปาโกวงศ์ รอง สวป.สภ.เมืองลำปาง เมื่อเย็นวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลลำปาง หลังได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่
ผบช.ภ.5 ได้กล่าวให้กำลังใจญาติ และได้แนะนำแนวทางการให้ความช่วยเหลือด้านสิทธิสวัสดิการต่างๆ ซึ่งผู้บาดเจ็บขณะนี้ถือว่าอาการสาหัสยังรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู ชั้น 4 อาการยังไม่ฟื้นคืนสติ แพทย์แจ้งว่าอาการสาหัสมากเนื่องจากศีรษะกระแทกพื้นอย่างแรง สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 01.00 น.วันที่ 29 ก.ย.2567 ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง ได้ตั้งจุดตรวจตามแผนตรวจบริเวณหน้าร้านนครกิโล ถ.รอบเวียง ต.สวนดอก อ.เมืองลำปาง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังนำยืนประจำการอยู่พร้อมมีแผงเหล็กตั้งบนถนนพร้อมติดสัญญาณไฟส่องสว่าง
จู่ๆ ได้มีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ทราบชื่อคือ นายจินปัง นายมู อายุ 17 ปี ชาวไทยใหญ่ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Gpx สี ขาว ทะเบียน 2 กด 1765 เชียงใหม่ ผ่านมาที่ด่านตรวจ เมื่อเข้าใกล้ เจ้าหน้าที่ได้ใช้ไฟฉายให้สัญญาณเพื่อชะลอความเร็วพร้อมลากแผงเพื่อกั้นทาง
แต่เมื่อนายจินปังเห็นด่านฯ นอกจากไม่ลดความเร็วของรถแล้ว ยังเร่งความเร็วฝ่าด่านชนแผงกั้นจนหักงอและชนกระแทกเข้ากับ ร.ต.อ.กล้าหาญ ปาโกวงค์ ซึ่งยืนอยู่ในจุดนั้นอย่างแรงจนร่างกระเด็นล้ม ศีรษะฟาดกระแทกกับพื้นเลือดไหล เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานกู้ภัยมารับตัวส่ง รพ.ลำปางอย่างเร่งด่วน
ส่วนนายจินปัง เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้ แจ้งข้อกล่าวหา “พยายามฆ่าและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่” จากการสอบถามนายจินปัง ผู้ต้องหายอมรับว่าเนื่องจากตัวเองเป็นคนต่างด้าวและไม่ได้สวมหมวกนิรภัย เมื่อเห็นด่านตำรวจจึงตกใจกลัวจึงขับขี่รถด้วยความเร็วเพื่อหลบหนี แต่ก็ไปชน ร.ต.อ.กล้าหาญซึ่งยืนอยู่อย่างแรง พนักงานสอบสวนจะนำตัวนายจินปัง ผู้ต้องหาส่งศาลเด็กและเยาวชนจังหวัดลำปางเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านที่อยู่ในที่เกิดเหตุระบุว่าถนนเส้นดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาตั้งด่านตรวจกันเป็นประจำในช่วงหลังเที่ยงคืน เดือนละ 1-2 ครั้ง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นช่วงวันศุกร์ เสาร์ หรือ อาทิตย์ ไม่แน่นอน ซึ่งก็จะมาตั้งช่วงกลางดึกที่ชาวบ้านปกติก็จะนอนหลับกันหมดแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็จะมีการตั้งแผง ติดตั้งไฟชัดเจนเมื่อขับมาเลยโค้งนิดเดียวก็จะเห็นแล้ว
ส่วนชาวบ้านอีกรายหนึ่งระบุว่าวันที่เกิดเหตุตนไม่อยู่แต่มาทราบภายหลังตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจ ซึ่งคราบตรงถนนตอนแรกคิดว่าเป็นน้ำมันแต่ไม่ใช่เป็นคราบเลือดของตำรวจที่ถูก จยย.พุ่งชนแล้วศีรษะฟาดพื้น
