เชียงราย - ชุมชนชายแดนแม่สายผวาเจอสึนามิโคลนถล่มอีกรอบ..หลังอุตุฯประกาศเตือนฝนจะตกหนัก แถมน้ำสายเคยขึ้นแตะระดับวิกฤตซ้ำมาแล้ว จนต้องเร่งระดมวางบิ๊กแบ็ก-สร้างพนังกั้นน้ำ พร้อมแจ้งเตือนประชาชนเตรียมรับมือเต็มที่
.
กรณีกรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศว่าจะมีฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.-3 ต.ค. 2567 นี้ ทำให้ชาวชุมชนในเขตชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ต่างหวาดวิตกกันว่าจะทำให้ลำน้ำสาย ซึ่งเป็นเส้นเขตแดนและเพิ่งถูกน้ำท่วมครั้งใหญ่เหมือนสึนามิโคลนถล่มช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา จนสร้างความเสียหายอย่างหนัก
ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการฟื้นฟูโดยเฉพาะนำดินโคลนออกจากจุดต่างๆ ทำให้ล่าสุดทางเทศบาล ต.แม่สาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งทำพนังกั้นน้ำตามจุดต่างๆ เมื่อระดับน้ำในลำน้ำสายได้เพิ่มแตะเส้นสีแดงใต้สะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ซึ่งเป็นจุดวิกฤตช่วงคืนวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่ได้ลดลงอย่างรวดเร็วมาแล้ว
นายชัยยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรี ต.แม่สาย กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดวิกฤตน้ำท่วมที่ผ่านมาทางฝ่ายทหารได้เร่งซ่อมแซมพนังเดิมและเร่งสร้างพนังกั้นด้วยถุงบิ๊กแบ็ก ปัจจุบันดำเนินการได้แล้ว 65% ยังไม่แล้วเสร็จทั้งหมด ทำให้เกิดความกังวลอยู่ว่าถ้าหากน้ำไหลมามากเหมือนครั้งที่แล้วหรือมีน้อยกว่าครั้งก่อนเล็กน้อยอาจจะก่อให้เกิดปัญหาเช่นเดิม ส่วนการเตือนภัยประชาชนนั้นได้ตรวจสอบจากกรมอุตุนิยมวิทยาแล้วทราบว่าฝนน่าจะตกในช่วงเวลาตอนเย็นประมาณ 15.00 น.เป็นต้นไป ซึ่งจะได้มีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนตามชุมชนต่างๆ ต่อไป
สำหรับการทำพนังกั้นน้ำในฝั่งไทยที่ อ.แม่สาย ได้มีการทำเป็นคันดินตรงบริเวณจุดผ่อนปรนการค้าสายลมจอย ชุมชนถ้ำผาจม ฯลฯ เป็นจุดแรกที่ลำน้ำสายไหลผ่านประเทศไทย เพราะมีการประเมินว่าหากฝนตกหนักน้ำจะไหลเข้าสู่ชุมชนสายลมจอยและวนเข้าสู่ชุมชนในจุดเดิม ส่วนจุดอื่นๆ มีการวางบิ๊กแบ็กตามจุดสำคัญ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข่าวฝนตกหนักแต่หน่วยงานต่างๆ และชาวบ้านยังคงระดมกำลังกันนำดินโคลนออกจากชุมชนต่างๆ ที่เคยถูกน้ำท่วมหนักต่อไป