ตราด - อธิบดีกรมเจ้าท่ากำชับเจ้าท่าตราด ดูแลเรือน้ำมันอับปางกลางทะเลเกาะกูดถูกคลื่นซัดเกยชายหาดเมื่อสัปดาห์ก่อน ย้ำต้องไม่มีน้ำมันรั่วไหลลงทะเล ป้องกันผลกระทบทางธรรมชาติหลังท้ายเรือเริ่มจมน้ำ ด้านบริษัทเจ้าของเรือส่งเรือ 2 ลำเร่งวางบูมล้อมพื้นที่ ประเมินแนวทางเคลื่อนย้ายตัวเรือ
จากเหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันชื่อ “ไทยแหลมทอง 8” ถูกคลื่นซัดเกยตื้นที่เกาะไม้ซี้เล็ก อ.เกาะกูด จ.ตราด (หน้าโรงแรมโซเนวาคีรี) พิกัดละติจูด 11° 42.63' เหนือ ลองจิจูด 102° 31.11' ตะวันออก เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะลูกเรือ 10 ชีวิตซึ่งติดอยู่ภายในเรือปลอดภัยทั้งหมด และแม้ขณะนี้จะผ่านไปนานกว่า 1 สัปดาห์ แต่ยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายเรือบรรทุกน้ำมันลำดังกล่าวออกจากพื้นที่ได้
ขณะที่หลังเกิดเหตุ นายมานพ เหลืองอ่อน ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สาขาตราด (กรมเจ้าท่า) ได้เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และเข้าตรวจสอบสภาพเรือจนพบว่า ท้องเรือมีรอยรั่วจนทำให้มัน้ำไหลเข้าตัวเรือ แต่เนื่องจากไม่สามารถอุดรอยรั่วได้จึงทำให้เรือบรรทุกน้ำมันช่วงท้ายเรือจม และจะต้องเร่งแก้ไขเป็นการด่วน เนื่องจากผ่านไปนานกว่าสัปดาห์ยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายเรือออกจากพื้นที่ได้นั้น
ล่าสุด วันนี้ (25 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายมานพ เหลืองอ่อน ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สาขาตราด ถึงความคืบหน้าการดำเนินงานว่า หลังเกิดเหตุได้มีการประสานไปยังเจ้าของบริษัทเรือ เพื่อให้เร่งกู้เรือบรรทุกน้ำมัน เนื่องเกรงว่าจะเกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะน้ำมันที่ยังคงค้างอยู่ภายในเรือ
และในเบื้องต้น ได้มีการใช้บูมล้อมเรือบรรทุกน้ำมันไว้แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันรั่วไหลออกมา ซึ่งในวันนี้สถานการณ์ในทะเลคลื่นลมยังไม่แรงเท่าใดนัก แต่เจ้าหน้าที่ ศรชล.ตราด ยังคงเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาอีก
ขณะที่บริษัทเจ้าของเรือไทยแหลมทอง 8 ได้เริ่มส่งเจ้าหน้าที่เข้าทำกู้เรือและสำรวจสภาพเรือโดยรอบตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา และจะดำเนินการจนถึงวันที่ 26 ก.ย. โดยได้นำเรือเข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานจำนวน 2 ลำ
โดยเรือลำแรกจะทำหน้าที่สนับสนุนการล้อมบูมรอบเรือเพื่อป้องกันคราบน้ำมันรั่วไหล และได้ทิ้งสมอห่างจากพื้นที่การทำงานอย่างน้อย 70 เมตร รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นฝั่งไปผูกเชือกรั้งบูมหัวท้าย พร้อมนำสมอบูมมาวางรั้งแนวตัวบูมให้เป็นท้องช้างเพื่อล้อมตัวเรือ และทำการลากบูมจากเรือบูมมาเข้าจุดและยึดบูมเข้ากับสมอและเชือก รวมทั้งตรวจเช็กแนวบูมที่ล้อมเรือปรับแต่งให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ป้องกันการรั่วไหลของน้ำมัน
ส่วนเรือลำที่สองจะทำหน้าที่สนับสนุนการทำงานของเรือลำแรกในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งผลการปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และจากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบคราบน้ำมันรั่วไหลออกจากตัวเรือแต่อย่างใด
ด้าน นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า เผยว่า ได้กำชับให้สำนักงานเจ้าท่าตราด ป้องกันไม่ให้น้ำมันในเรือรั่วไหลออกมาด้านนอกเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในทะเลเกาะกูด ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม และสร้างรายได้ให้ จ.ตราด อย่างมหาศาล