xs
xsm
sm
md
lg

ขายดีมาก! ลูกค้าแห่สั่งจองเมล่อน 3 สายพันธุ์สีเหลืองทองจากทิเบต เกษตรกรต้องเร่งปลูก-ขยายพื้นที่เพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สมุทรสงคราม - เกษตรกรเจ้าของฟาร์มผักไฮโดรโปรนิกส์ใน จ.สมุทรสงคราม ปลูกเมล่อน 3 สายพันธุ์สีเหลืองทองจากทิเบต ให้ผลผลิตและรสชาติดี ลูกค้าสั่งจองเพียบ เตรียมปลูกรุ่นต่อไปพร้อมขยายพื้นที่เพิ่ม

นายวงศ์อนันต์ สุขเจริญคณา อายุ 48 ปี เจ้าของโชคอนันต์ฟาร์ม เลขที่ 49 หมู่ 4 ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เปิดเผยว่า จ.สมุทรสงคราม หรือแม่กลองได้ชื่อว่าเป็น “เมืองสามน้ำ” มีทั้งน้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย เนื่องจากอยู่ติดทะเลปากอ่าวแม่กลอง ดินจึงมีคุณสมบัติพิเศษที่ไม่เหมือนใคร ส่งผลทำให้ผลไม้ที่นี่มีรสชาติดีไม่ว่าลิ้นจี่ หรือส้มโอ

นายวงศ์อนันต์ กล่าวว่า ปกติตนทำฟาร์มผักไฮโดรโปรนิกส์ เมื่อ 3 เดือนก่อนได้ทดลองปลูกเมล่อน จำนวน  3 สายพันธุ์ ในโรงเรือนขนาด 6 คูณ 20 เมตร รวม 200 ต้น แยกเป็นพันธุ์ไทเฮา 100 ต้น พันธุ์ไข่ทองคำ 50 ต้น และพันธุ์จันทร์ฉาย 50 ต้น โดยซื้อเมล็ดพันธุ์ไทเฮามาจากทิเบต ส่วนพันธุ์ไข่ทองคำและพันธุ์จันทร์ฉาย มีผู้พัฒนาให้สามารถปลูกในเมืองไทยซึ่งทนร้อนทนฝนได้ดีแล้ว ผลการปลูกรุ่นแรกถือว่าประสบความสำเร็จ เนื่องจากให้ผลผลิตกว่า 150 ลูก ขนาดลูกละ 1.5 -2 กิโลกรัมเศษ ความหวานอยู่ในเกณฑ์พอดีที่ประมาณ 14-15 องศาบริกซ์

เมล่อนทั้ง 3 สายพันธุ์ เปลือกสีเหลืองทองอร่ามสวยงาม เนื้อในออกสีส้มอมเหลือง แต่เนื้อสัมผัสและรสชาติต่างกัน โดย "พันธุ์ไทเฮา" ผลรูปวงกลมรี ผิวสีเหลืองทองลายตาข่าย เนื้อหวานกรอบอร่อยกำลังดี “พันธุ์ไข่ทองคํา” ลักษณะผลกลมเหมือนไข่มีเปลือกสีเหลืองจึงเรียกว่า "ไข่ทองคำ" ลักษณะผิวเรียบ เนื้อแน่นหวานกรอบคล้ายแอปเปิล และ "พันธุ์จันทร์ฉาย" ลักษณะคล้ายกับพันธุ์ไข่ทองคํา คือผลกลมแต่ผิวสีเหลืองอร่ามคล้ายพระจันทร์ส่องแสงยามค่ำคืน เนื้อแน่นหวานฉ่ำ กรอบ คล้ายกับสาลี่ ขณะนี้ตนเริ่มตัดขายแล้วมีประมาณ 150 ลูก ประเดิมรุ่นแรกกิโลกรัมละ 80 บาทเท่านั้น
           
ส่วนการปลูกเมล่อนทั้ง 3 สายพันธุ์ นายวงศ์อนันต์ บอกว่าค่อนข้างจะยุ่งยากสักหน่อยสำหรับมือใหม่ เริ่มจากเพาะเมล็ดเป็นต้นกล้า แล้วย้ายลงกระถางปลูกในโรงเรือนปิดด้วยตาข่ายมิดชิดป้องกันโรคและแมลงรบกวน เมื่อต้นเริ่มเลื้อยขึ้นเชือก ออกดอกจะต้องผสมเกสรตัวผู้ตัวเมียให้เนื่องจากเป็นการปลูกในโรงเรือนแบบปิด จึงไม่มีแมลงมาช่วยผสมเกสร แต่ต้องระวังแมลงศัตรูของเมล่อนที่อาจเล็ดลอดเข้ามาในโรงเรือน เช่น เพลี้ยไฟ เพลียแป้ง และแมลงหวี่ขาว และจะต้องตัดกิ่งใบให้เหลือข้อที่ 9-15 เท่านั้น เพื่อให้ติดผลที่มีความสมบูรณ์ กับตัดผลทิ้งให้เหลือผลที่ดีที่สุดต้นละ 1 ผล และเมื่อใกล้เก็บผลผลิตจะปล่อยให้ต้นมีสภาวะใกล้ตาย เพื่อให้ต้นส่งสารอาหารทั้งหมดไปเลี้ยงลูกจะทำให้ผลเมล่อนมีรสชาติอร่อยยิ่งขึ้น
           
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเมล่อนรุ่นแรกมีผู้สนใจสั่งจองแล้วมากกว่าครึ่ง อีกทั้งตลาดและราคาน่าจะไปได้ดี ตนจึงจะปลูกรุ่นต่อไปทันทีและเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกอีกเท่าตัว หรืออีก 1 โรงเรือน จึงขอเชิญผู้สนใจสั่งจองพรีออเดอร์ผลผลิตรุ่นต่อไปล่วงหน้า โดยติดตามได้ทางเฟซบุ๊ก "โชคอนันต์ไฮโดรโปรนิกส์" Tiktok ช่อง "วงคงผัก" หรือสอบถามทางโทรศัพท์ 08-4659-8797










กำลังโหลดความคิดเห็น