ศรีสะเกษ - คุณตาศรีสะเกษวัย 81 ปีสุดดีใจได้รับเงินหมื่นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากรอคอยมานาน ขอบคุณรัฐบาลให้เงินมาต่อชีวิต เป็นทุนต่อยอดอาชีพเร่ขายมีดจอบเสียมและอุปกรณ์เกษตรตามหมู่บ้าน ขณะคุณยายวัย 63 จะนำไปซ่อมแซมบ้านที่ทรุดโทรม
วันนี้ (25 ก.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร( ธ.ก.ส.) ศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ บรรยากาศวันแรกที่การโอนเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ รายละ 10,000 บาท ปรากฏว่าเป็นไปด้วยความคึกคัก ซึ่งกลุ่มแรกที่จะได้รับเงิน 10,000 บาทตั้งแต่วันนี้คือ คนพิการ และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีเลขประจำตัวประชาชนลงท้ายเลข 0 โดยในวันนี้มีประชาชนที่มีสิทธิตามหลักเกณฑ์เดินทางมาถอนเงินเป็นจำนวนมาก ส่วนแรกที่มีบัตรเอทีเอ็มจะยืนรอต่อแถวเพื่อกดถอนเงินสดกลับบ้าน ขณะที่ประชาชนบางส่วนที่ไม่มีบัตรเอทีเอ็มต้องมาต่อคิวเพื่อถอนเงินสดกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ซึ่งมีผู้มาใช้บริการตั้งแต่ธนาคารเริ่มเปิดดำเนินการมากกว่า 500 คน
นายมั่น อายุ 81 ปี ชาวบ้านตะดอบ ตำบลตะดอบ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เดินทางมาจากหมู่บ้านตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อมารอต่อคิวถอนเงิน 10,000 บาท ที่ทางรัฐบาลแจกให้ ซึ่งเงินที่ได้ในครั้งนี้ ตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะจะสามารถนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพเร่ขายมีด จอบ และอุปกรณ์ทำการเกษตรของตนได้ โดยตนขี่รถจักรยานยนต์ซาเล้งเร่ขายตามหมู่บ้าน ดังนั้นเงินจำนวนนี้จึงเป็นเงินที่จะสามารถนำมาต่อยอดให้กับการดำรงชีพของตน
ด้าน ยายจอย อายุ 63 ปี บ้านหนองแก้ว ตำบลหนองแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เงิน 10,000 บาทที่ได้จากรัฐบาลในครั้งนี้จะไปรวมกับคนในครอบครัวที่มีสิทธิได้เงินเช่นเดียวกัน เพื่อนำไปซ่อมแซม และต่อเติมบ้านที่มีสภาพบ้านทรุดโทรม ซึ่งตนเฝ้ารออย่างมีความหวังว่าจะได้เงินมาเพื่อซ่อมแซมบ้าน ต้องขอบคุณรัฐบาลมากที่ให้เงินจำนวนนี้มา
ขณะที่ นางสาวเฉลิมรัตน์ เรืองวราคม คลังจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ในส่วนของการดำเนินงานของคลังจังหวัดศรีสะเกษ อยากฝากบอกผู้มีสิทธิได้รับเงินว่าในวันนี้เป็นการโอนเงินให้ผู้พิการและผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 0 เท่านั้น ส่วนเลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 1, 2 และ 3 จะโอนเงินให้ในวันที่ 26 ก.ย. 67 และเลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 4, 5, 6 และ 7 จะโอนเงินให้ในวันที่ 27 ก.ย. 67 ส่วนเลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 8 และ 9 จะโอนเงินให้ในวันที่ 30 ก.ย. 67 ซึ่งหากใครยังไม่ไปผูกบัญชีพร้อมเพย์กับบัญชีธนาคารให้รีบไปผูกโดยด่วน โดยต้องผูกพร้อมเพย์กับบัญชีธนาคารเป็นเลขบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้น เป็นเบอร์โทรศัพท์ไม่ได้ ซึ่งพอเงินโอนไม่เข้าบัญชีแล้วระบบจะมีการโอนเงินกลับมาที่คลัง ก่อนจะมีการโอนให้อีกครั้ง คือ วันที่ 22 ต.ค. 67, วันที่ 22 พ.ย. 67 และวันที่ 22 ธ.ค. 67 ถ้าทางรัฐโอนครบ 3 ครั้งแล้วเงินไม่เข้าบัญชี เงินก็จะถูกเก็บเข้าคลัง
ดังนั้นจึงอยากให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรีบไปผูกพร้อมเพย์กับบัญชีธนาคารให้เรียบร้อยเพื่อรับเงินก้อนนี้ และหากผู้พิการไม่สามารถมาผูกพร้อมเพย์กับบัญชีธนาคาร ก็สามารถมอบสิทธิให้คนอื่นมาผูกพร้อมเพย์ให้ได้
