ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ประสบความสำเร็จอย่างภาคภูมิ ร.ร.อนุบาลขอนแก่นคว้ารางวัลเหรียญทองในการแข่งขันงานศิลปหัตถกรรม สพป.ขอนแก่นเขต 1 ประจำปี 67 มากถึง 77 เหรียญ ด้าน ผอ.โรงเรียนเปิดเคล็ดไม่ลับ เตรียมความพร้อมฝึกซ้อมให้เด็กๆ ที่เข้าแข่งขันตั้งแต่เปิดภาคเรียน โดยจัดครูที่มีทักษะสูงแต่ละหมวดวิชาเป็นพี่เลี้ยง
ผ่านไปแล้วงานสร้างสรรค์ส่งเสริมความสามารถเยาวชนคนเก่งคนดี “การแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน” ครั้งที่ 72 ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ประจำปีการศึกษา 2567 ของสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษา เขต 1 จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยมีการประกวดผลการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ของกลุ่มเครือข่ายพัฒนาการศึกษา ทั้ง 10 กลุ่ม 128 โรงเรียน เป็นการนำเสนอผลสำเร็จของการบริหารจัดการด้านการศึกษา มีสถานที่จัดการแข่งขันทั้งหมด 4 จุด ประกอบด้วย โรงเรียนอนุบาลขอนแก่น, โรงเรียนสนามบิน, มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และที่ค่ายลูกเสือแก่นนคร
ภายหลังการจัดแข่งขันเสร็จสิ้น ผลปรากฏว่าโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น ภายใต้การอำนวยการของ นายประจวบ ศิริภักดิ์ ผู้อำนวยการ สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 46 รายการ แยกเป็น เหรียญทอง 77 เหรียญ เหรียญเงิน 4 เหรียญ จากผลงานส่งเข้าประกวดทั้งหมด 81 รายการ ของนักเรียนระดับชั้น ป.1 ถึง ป.6
ขณะที่โรงเรียนสนามบินขอนแก่น ภายใต้การอำนวยการของ น.ส.อินทุอร โควังชัย รอง ผอ.รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนสนามบิน ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 28 รายการ แยกเป็น เหรียญทอง 98 เหรียญ เหรียญเงิน 18 เหรียญ และ เหรียญทองแดงอีก 7 เหรียญ ( เป็นโรงเรียนขยายโอกาส ที่มีนักเรียนระดับมัธยมศึกษา 1-3 เข้าแข่งขันรวมอยู่ด้วย)
นายประจวบ ศิริภักดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น กล่าวว่า จากสถิติในการแข่งขันวิชาการงานศิลปะหัตถกรรม ระดับเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 นั้น โรงเรียนอนุบาลขอนแก่นได้รางวัลชนะเลิศ 77 เหรียญทอง เหรียญเงิน 4 เหรียญ ความสำเร็จของลูกๆ ในครั้งนี้เนื่องจากมีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่เปิดภาคเรียน ซึ่งเรามองว่าคุณภาพของการศึกษานั้นจะส่งผลต่อผู้เรียน ประการแรกคือมีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่เปิดภาคเรียน เตรียมความพร้อมนักเรียน เตรียมพร้อมครู และผู้ปกครอง ที่มีส่วนสำคัญมาก
ในเรื่องความสามารถของนักเรียนที่หมั่นฝึกฝน ที่ตนได้พูดถึงเป็นประจำว่า พรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่คุณพ่อ, คุณแม่ แล้วส่งต่อมายังลูก เสร็จแล้วมาเติมเต็มกับคุณครูที่โรงเรียน อันนี้เรียกว่าเติมเต็มให้กับลูกนักเรียน เป็นการเสริมทักษะ และเป็นการต่อยอดให้กับพวกเขา พอมาถึงโรงเรียนแล้วลูกๆ จะค้นพบความสามารถความถนัดของตนเอง เสร็จแล้วมาสู่ที่คุณครู ซึ่งเป็นคุณครูที่มีความเป็นอัจฉริยะ มีความพร้อม ความสามารถ และความถนัด ซึ่งไม่จำเป็นต้องจบวิชาเอกด้านนั้นด้านนี้ ขึ้นอยู่กับทักษะของครูที่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ไปสู่ลูกๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ผมได้เปิดโอกาสให้ครูผู้ฝึกสอน ผู้ฝึกซ้อมให้กับทุกๆ คนที่ฝึกสอนลูกๆ ให้มีความพร้อม ความถนัด บางคนมีความเก่งหลายๆ ด้าน แต่เขาจะรู้ตัวว่าตัวเขาเองชอบด้านใดมากที่สุด ผู้ปกครองเองก็มีส่วนในการตัดสินใจว่าลูกๆ นั้นมีเก่งด้านใดชอบมากที่สุด ดีที่สุดสำหรับตัวเขา เมื่อรู้แล้วว่าเด็กแต่ละคนชอบและเก่งด้านใด ทางโรงเรียนก็สามารถฝึกซ้อมต่อยอดให้เขาได้ถูกจุด” นายประจวบกล่าว และว่า
เพราะฉะนั้นแล้วเด็กนักเรียนกลุ่มนี้จะมีวินัยในตัวเอง จะโดดเด่นทุกด้าน ทั้งการเรียน ทั้งกิจกรรม มีความพร้อมที่จะเป็นตัวแทนของโรงเรียนในการส่งประกวดหรือการแข่งขันแต่ละหมวดวิชาในแต่ละระดับชั้น และพวกเขาก็จะได้รับการฝึกฝนต่อยอดทักษะความรู้ในขั้นที่สูงขึ้น
นายประจวบกล่าวตอนท้ายว่า อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง ที่ให้ความร่วมมือ และให้ความสนใจ และสิ่งสำคัญยิ่ง ถ้าขาดคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง และหน่วยงานต้นสังกัด โดยเฉพาะผู้อำนวยการเขตที่ได้ส่งเสริม และขอขอบคุณองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่นที่ได้สนับสนุนงบประมาณ และภาคีเครือข่ายต่างๆ ได้ส่งเสริมลูกๆ ให้แสดงออกถึงความรู้ความสามารถ ส่งเสริมทักษะเฉพาะด้าน