xs
xsm
sm
md
lg

สลด! ยายวัย 73 อยุธยาอยู่บ้านเพียงลำพัง ถูกโจรขึ้นบ้านใช้หมอนอุดจมูกจนเสียชีวิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พระนครศรีอยุธยา - คุณยายวัย 73 อยู่บ้านเพียงลำพังที่อยุธยา ถูกคนร้ายบุกขึ้นหวังชิงทรัพย์ ใช้หมอนอุดจมูกจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวคนร้ายและสามารถ รวบตัวผู้ก่อเหตุได้ทันควัน

วันนี้ (23 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.กิติศักดิ์ อุดมรักษ์ รอง สว.สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีหญิงชราถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 13 ม.4 ต.ปากกราน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับแพทย์ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ

โดยภายในบ้านพบศพ น.ส.จิระ มังกรพันธุ์ อายุ 73 ปี สวมใส่ชุดนอนสีแดง มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่ตาข้างซ้าย จมูก ศีรษะ ท้ายทอย เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-5 ชั่วโมง และยังพบร่องรอยการต่อสู้ มีคราบเลือดติดอยู่ที่ผ้าม่าน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พร้อมทั้งรายงาน พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ทราบ พร้อมนำกำลังชุดสืบสวนลงพื้นที่ทันที

ผู้สื่อข่าวสอบถาม น ส.อริสา อายุ 47 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต บอกกว่า บ้านที่เกิดเหตุมีแม่พักอาศัยอยู่เพียงคนเดียว ตนพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี มาทราบข่าวว่าแม่ถูกทำร้ายเสียชีวิตจากเพื่อนบ้าน จึงรีบเดินทางมา เพื่อนบ้านบอกว่า ช่วงเวลาประมาณตีสามได้ยินเสียงเหมือนมีคนเคาะกระดานพื้นบ้าน ขอความช่วยเหลือ พอช่วงเวลาประมาณตีห้าเพื่อนบ้านมาเรียกชวนแม่ไปละหมาด แต่พบว่าบ้านล็อก ใส่กุญแจจากด้านนอก จึงเกิดความสงสัยเพราะได้ยินเสียงเคาะพื้นบ้านตั้งแต่กลางดึก จึงไปตามญาติๆ กันมางัดประตูบ้านเข้าไปพบว่าแม่ถูกตีที่ใบหน้า และศีรษะจนเสียชีวิต ทรัพย์สินของแม่มีโทรศัพท์ ทองรูปพรรณ เงินสดไม่ทราบจำนวน ซึ่งเป็นค่าสินสอดของลูกชายที่เพิ่งจะแต่งงานได้ประมาณ 1 สัปดาห์

จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ก่อนที่แม่จะเสียชีวิตยังได้โทรศัพท์คุยกันทุกวัน แม่เป็นคนดีไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร แม้แต่จะด่าใครยังไม่เคย อายุแม่มากแล้วจะไปมีพิษมีภัยอะไรกับใครทำไมต้องมาทำร้ายคนแก่แบบนี้ ตนสงสัยคนในชุมชน เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก่อเหตุลักทรัพย์ตามบ้านเรือนในชุมชน และเพิ่งจะพ้นโทษออกมา

ทางด้าน นายสมคิด อายุ 42 ปี ลูกเลี้ยงได้พาผู้สื่อข่าวเดินขึ้นไปดูจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่บนบ้าน พร้อมทั้งบอกว่าปกติแม่จะอยู่บ้านเพียงคนเดียว และลูกๆ จะไปทำมาหากินที่จังหวัดนนทบุรี พอมาทราบข่าวเมื่อช่วงเช้าก็เดินทางมาที่บ้าน พบว่าแม่ถูกทำร้ายเสียชีวิตแล้ว ส่วนคนที่ก่อเหตุไม่ใช่คนที่ไหนเป็นคนในละแวกหมู่บ้านเดียวกันเพิ่งจะออกจากคุกมา ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุกับแม่ของตน

ต่อมา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบคนร้ายอยู่ในคลองตะเคียนห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 300 เมตร จึงพากำลังเจ้าหน้าที่ไปปิดล้อม สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ จึงนำตัวขึ้นมาก่อนจะรีบนำตัวพาขึ้นรถและขับออกไปเนื่องจากกลัวว่าชาวบ้านและญาติจะลงประชาทัณฑ์ พร้อมรีบนำตัวไปที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา

สอบถาม นายสมมาด อายุ 64 ปี พลเมืองดีกล่าวว่า ตนออกไปหลังบ้านซึ่งติดกับคลองพอเห็นตัวผู้ต้องสงสัยรีบแจ้งตำรวจทันที ลักษณะที่เห็นกำลังแหวกน้ำ ถามว่าใคร บอกหนีเมียมา เราคิดว่าไม่ใช่เพราะเมื่อเช้าเราเพิ่งไปที่เกิดเหตุมาด้วย เพราะเราเป็น ตชต.เก่า รู้จักตำรวจเลยรีบโทร.บอกให้เข้ามาดู

ต่อมา หลังจากนำตัวผู้ก่อเหตุมาที่สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาคือ นายโอฬาร วงศาโรจน์ อายุ 44 ปี ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้ต้องหาไม่ได้หนีไปไหนไกล ไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในคลองตะเคียน ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุมากนัก

โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตั้งใจจะเข้าไปชิงทรัพย์ โดยใช้หมัดต่อยไปที่เบ้าตาของผู้ตายจำนวน 4 ครั้ง ทำให้ผู้ตายร้องส่งเสียงดัง ผู้ต้องหากลัวคนจะได้ยิน จึงใช้หมอนอุดไปที่จมูกของผู้ตายจนขาดอากาศหายใจ ส่วนประเด็นที่ญาติติดใจว่าอาจจะถูกข่มขืน นั้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่อย่างไรก็ตามก็ตาม ต้องรอผลชันสูตรจากแพทย์ยืนยัน ส่วนทรัพย์สินที่ได้ไปคือกระเป๋าหนึ่งใบ ในนั้นมีเงินสดจำนวน 1,400 บาท และโทรศัพท์มือถือหนึ่งเครื่อง เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและชิงทรัพย์ผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต

ประวัติ เคยถูกจับในคดีลักทรัพย์ 2 ครั้ง และเมื่อปี 2561 จากข้อหาครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด เพิ่งพ้นโทษมาเพียง 2 ปี กลับมาก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ซ้ำ








กำลังโหลดความคิดเห็น