ลำปาง - คืบหน้าน้ำป่าหลากลงดอยขุนตาล ล้นห้วยท่วมตั้งแต่ห้างฉัตร-เกาะคา ชาวบ้านต้องทิ้งทรัพย์สินหนีตายกันโกลาหล โดนกระแสน้ำซัดดับสังเวยแล้ว 2 ศพ เจ็บอีก 3 ราย เดือดร้อนหลายพันหลังคาเรือน ล่าสุด ปภ.-กู้ภัยฯ ยังต้องเร่งอพยพผู้ป่วย-ผู้สูงอายุออกพื้นที่เสี่ยงหวั่นน้ำมาเพิ่มอีกระลอก
วันนี้ (23 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีน้ำป่าจากดอยขุนตาลได้ไหลทะลักลงสู่ลำห้วยแม่ตาน และท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านทั้งในพื้นที่ อ.ห้างฉัตร อ.เกาะคา จ.ลำปาง อย่างหนัก และกระแสน้ำได้ซัดชาวบ้านหายไปกับน้ำ 2 ราย คือ นางเทียน ทำมะโจก อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/1 ชาวบ้านห้วยเรียน และ นางเสมอ สุขใส อายุ 72 ปี ชาวบ้านปางปง-ปางทราย
ล่าสุดอาสากู้ภัยฯ พบศพผู้สูญหายทั้ง 2 รายและนำขึ้นมาจากน้ำ นำส่ง รพ.ลำปาง เพื่อชันสูตรตามขั้นตอนแล้ว โดยพบร่างนางเสมอ ชาวบ้านปางปง-ปางทราย ลอยไปติดเสาไฟฟ้าบ้านแม่ตาลน้อย ขณะที่นางเทียน ชาวบ้านห้วยเรียน ถูกน้ำพัดไหลไปติดกอไม้และสะพาน ขณะที่มีผู้บาดเจ็บอีก 3 คน
ส่วนในพื้นที่ที่มีน้ำทะลักเข้าท่วม ทีมอาสากู้ภัยลำปางและเจ้าหน้าที่ ปภ.ลำปางยังคงเร่งนำเรือเข้าลำเลียงผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ที่ติดค้างอยู่ ฝ่าสายฝนออกจากบ้านอย่างทุลักทุเล
ด้าน นายชนาธิป แสมแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ พร้อมด้วย ปภ.จว.ลำปาง นายอำเภอห้างฉัตร นายกเทศมนตรีตำบลเวียงตาล ผู้นำท้องถิ่น ทหาร มทบ.32 อส. และชาวบ้าน ต่างเข้าไปสำรวจความเสียหายและลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน พร้อมกับตั้งศูนย์อพยพชาวบ้านห้วยเรียนที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายและอยู่ในจุดเสี่ยงให้มาพักอาศัยชั่วคราว ณ วัดห้วยเรียน โดยประชาชนที่ต้องการนำอาหาร น้ำดื่มมาบริจาคช่วยเหลือสามารถนำมาร่วมได้ที่วัดห้วยเรียน ม.6 ได้ตลอดเวลา
สำหรับความเสียหายขณะนี้มีบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ห้างฉัตร 2 ตำบล ประกอบด้วย ต.เวียงตาล ม.7 บ้านห้วยเรียน 149 ครัวเรือน 398 คน ม.8 บ้านแม่ตาลน้อย 111 ครัวเรือน 346 คน ม.9 บ้านปางปง-ปางทราย 71 ครัวเรือน 204 คน
อ.เกาะคา ประกอบด้วย ต.ปงยางคก ม.6 จำนวน 450 ครัวเรือน 1,078 คน ม.7 บ้านปงใต้ 326 ครัวเรือน 1,017 คน ม.8 บ้านปงเหนือ 114 ครัวเรือน 363 คน ม.10 บ้านข่วง 219 ครัวเรือน 724 คน ม.11 บ้านโฮ่งทะล้า 133 ครัวเรือน 406 คน ม.12 บ้านหม้อ 71 ครัวเรือน 165 คน และในพื้นที่ บ้านจู๊ด บ้านจำ บ้านม้าเหนือ ม้ากลาง ม้าใต้ ต.ปงยางคก อำเภอเกาะคา รวมเกือบ 2,000 หลังคาเรือน
นายไว วันพรมมินทร์ อายุ 62 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เปิดเผยว่า เมื่อช่วงประมาณตี 2 ที่ผ่านมาตอนนั้นกระแสน้ำป่าไหลมาอย่างรวดเร็วและรุนแรง ชาวบ้านหลายคนพยายามขนข้าวของหนีแต่สุดท้ายต้องยอมทิ้งหมดและวิ่งไป ระหว่างนั้นกำแพงของชาวบ้านซึ่งต้านน้ำไว้ไม่อยู่ก็พังลงมาก่อนที่จะพัดร่างของผู้สูญหายไป ท่ามกลางความตกใจของชาวบ้าน ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ได้คว้ามือชาวบ้านคนหนึ่งเอาไว้ได้ และสถานการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่มาก่อน ระดับน้ำสูงตั้งแต่เมตรจนถึง 2 เมตรกว่า
นายสังเวียน ปิ่นใจล่า อายุ 54 ปี สามีของนางเทียน ทำมะโจก อายุ 49 ปี ผู้สูญหาย เปิดเผยว่าตอนน้ำป่าเข้าทะลักเข้ามา ตอนแรกน้ำยังไม่มากแต่ต่อมาน้ำได้ไหลทะลักเข้ามาอย่างรวดเร็วและรุนแรงจึงให้ภรรยาวิ่งหนีเอาตัวรอดก่อนและตนเองก็ค่อยตามมาทีหลัง กระทั่งมาถึงที่ปลอดภัย ปรากฏว่ามีคนบอกว่าระหว่างภรรยาวิ่งหนีเอาชีวิตรอดนั้นปรากฏว่าน้ำป่าซึ่งตอนนั้นรุนแรงมากได้ซัดกำแพงรั้วปูนของชาวบ้านพังลงมาก่อนที่จะพัดร่างของภรรยาหายไป