บุรีรัมย์ - ครูบุรีรัมย์หอบหลักฐานและคำพิพากษาศาลยกฟ้องบุกร้อง “ทนายอั๋น” จ่อฟ้องกลับธนาคาร ปมฉาว ผจก.ฝ่ายสินเชื่ออดีตเมีย ผอ.ร.ร.มือสังหาร 4 ศพ ยักยอกเงิน ขรก.ครูหลายคนยอดหลายล้าน จนถูกไล่ออกติดคุก 50 ปี แต่แบงก์ดันฟ้องเท็จบีบเอาผิดครูผู้เสียหายให้ชดใช้ 2.6 ล้าน ทั้งที่ยอดกู้จริง 1.4 ล้าน ทนายอั๋นเผยเป็น “คดีเงินบาป” ที่นำไปสู่โศกนาฏกรรมสุดเศร้า
วันนี้ (23 ก.ย. 67) นายปอน (นามสมมติ) อายุ 47 ปี ข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ได้หอบเอกสารหลักฐาน และคำพิพากษาที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง บุกร้อง นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น ให้ช่วยเหลือฟ้องกลับธนาคารแห่งหนึ่ง จากกรณีที่ตัวเองและข้าราชการครูอีกหลายคนได้กู้เงินจากธนาคารดังกล่าวเมื่อปี 2558 วงเงินกว่า 1.2 ล้านบาท จากนั้นปี 2559 ธนาคารมีโครงการให้รีไฟแนนซ์ปรับสภาพหนี้ด้วยการทำเรื่องขยายวงเงินกู้เป็น 1.4 ล้านบาท เพื่อปิดหนี้ 1.2 ล้าน แล้วยังสามารถนำเงินส่วนต่าง 2 แสนบาทไปใช้จ่ายได้ ก็มีครูหลายคนเข้าร่วมโครงการ
แต่หักเงินในบัญชีเพื่อชำระหนี้ กลับพบความผิดปกติ มียอดหักเพิ่มจากยอดที่ต้องชำระจริงถึง 8,000 บาท พอไปตรวจสอบถึงทราบว่า น.ส.เอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อของธนาคารในขณะนั้น ยักยอกเงินของครูที่เข้าโครงการรีไฟแนนซ์เงินกู้ เพราะไม่ได้นำเงิน 1.2 ล้านไปปิดหนี้เดิมแต่กลับไปใช้ส่วนตัว ทำให้ครูหลายคนต้องเป็นหนี้ 2 ยอด คือ 1.2 ล้าน และ 1.4 ล้าน รวมเป็น 2.6 ล้านบาท
จึงไปแจ้งให้ทางธนาคารทราบว่ามีการยักยอกเงินของครูหลายคน กระทั่งสำนักงานใหญ่ของธนาคารมีการตั้งกรรมการสอบเอาผิดวินัยและดำเนินคดีอาญา ผจก.ฝ่ายสินเชื่อคนดังกล่าวเมื่อต้นปี 60 จน ผจก.ถูกไล่ออกและศาลพิพากษาจำคุก 50 ปี ทุกคนก็เข้าใจว่าเรื่องจะจบเพราะคนทำผิดได้รับโทษไปแล้ว แต่จู่ๆ เมื่อปี 2561 ทางธนาคารกลับยื่นฟ้องเรียกเงินจากครูทุกคน 2 บัญชี ยอดรวมกว่า 2.6 ล้าน และดอกเบี้ยอีกรวมกว่า 3 ล้านบาท สร้างความเดือดร้อนและเครียด จนบางคนมีภาวะทางจิตต้องกินยารักษา
ต่อมามีการไกล่เกลี่ย ธนาคารเสนอให้ชำระยอด 1.4 ล้าน แต่ต้องจ่ายค่าทนายความ ค่าธรรมเนียมและค่าปรับคนละ 5-6 หมื่นบาทเพิ่มเติมด้วย หลายคนจำยอมทำตามเพราะไม่อยากเสียเวลาและไม่มีเงินที่จะจ้างทนายสู้คดี ลำพังทำงานกินเงินเดือนแต่ละเดือนยังลำบาก ทั้งถูกบีบให้เซ็นเอกสารห้ามฟ้องร้อง หรือเรียกร้องใดๆ
แต่ตนมองว่าไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม เพราะข้อเท็จจริงแล้วครูเป็นผู้เสียหายแต่ธนาคารกลับฟ้องเท็จเพื่อบีบเอาผิดและผลักภาระให้จ่ายเงินเพิ่ม จึงตัดสินใจเดินหน้าสู้คดี จนสุดท้ายศาลยกฟ้อง วันนี้จึงอยากจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตนเองและครูหลายคน เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานว่าเมื่อธนาคารทำผิด ก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ ยืนยันจะฟ้องเอาผิดตามกฎหมาย
ด้านทนายอั๋นบอกว่า คดีนี้เริ่มจากที่ข้าราชการครูหลายคนไปกู้เงินธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์กว่า 1.2 ล้านบาท จากนั้นแบงก์มีโครงการให้รีไฟแนนซ์ปรับสภาพหนี้ หรือปิดหนี้เดิมทั้งยังมีเงินส่วนต่างไปใช้จ่ายอีก 2 แสนบาท โดยปกติการกู้ยอดใหม่แล้วเอาเงินไปโปะยอดเดิม คนที่กู้จะต้องเป็นหนี้เพียงยอดใหม่คือยอด 1.4 ล้านบาท แต่ผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อของธนาคารกลับเอาเงิน 1.2 ล้านบาทไปเป็นของตัวเอง เป็นการยักยอกเงินธนาคารไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว แต่พอครูที่ยื่นกู้และรีไฟแนนซ์ไปติดต่อเพื่อโปะหนี้ ทางธนาคารกลับแจ้งว่าเป็นหนี้ 2 ยอด คือ 1.2 ล้าน และ 1.4 ล้าน รวมเป็น 2.6 ล้านบาท
ครูที่ตกเป็นผู้เสียหายจึงไปแจ้งทางธนาคารว่ามีการยักยอกเงิน กระทั่งสำนักงานใหญ่ทราบเรื่องจึงตั้งกรรมการสอบเอาผิดวินัยและดำเนินคดีอาญาผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อคนดังกล่าว ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและยักยอกเงิน จนถูกไล่ออกและศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษกว่า 100 ปี แต่กฎหมายกำหนดให้ลงโทษได้ไม่เกิน 50 ปี ศาลอุทธรณ์ก็มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุก 50 ปี และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ
แต่ต่อมาทางธนาคารกลับฟ้องร้องเรียกเงินจากครูที่ตกเป็นผู้เสียหาย ถูกผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อยักยอกเงิน รวม 2 ยอด เป็นเงินคนละกว่า 2.6 ล้านบาท ครูหลายคนก็จำยอมเพราะไม่อยากเสียเวลาและไม่มีเงินที่จะสู้คดี แต่ครูที่มาร้องเรียนกับตนเองครั้งนี้ไม่ยอม เพราะมองว่าไม่เป็นธรรม ครูท่านนี้เห็นว่าไม่ถูกต้องจึงต่อสู้คดีจนชนะศาลยกฟ้อง วันนี้ครูคนนี้ก็มาเรียกร้องความเป็นธรรม และเตรียมที่จะฟ้องกลับธนาคารเพื่อให้รับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น
คดีนี้เหมือนเป็น “คดีเงินบาป” เนื่องจาก ผจก.แบงก์ที่โกงเงินครูไปหลายคนหลายล้านบาท จากข้อมูลทราบว่ามีการยักย้ายถ่ายโอนเงินที่โกงไปให้กับ ผอ.ร.ร.ที่ตกเป็นข่าวดังยิงสังหาร 4 ศพ ซึ่งเป็นสามีขณะนั้น แต่พอเมียติดคุกเพราะยักยอกเงิน สามีก็ฟ้องหย่า หลังจากนั้น ผอ.คนดังกล่าวก็ไปแต่งงานอยู่กินกับ ผอ.สาวสวย โดยเอาเงินที่ได้จากอดีตภรรยาที่โกงมาทุ่มเทให้ ผอ.สาวสวย แต่สุดท้าย ผอ.สาวสวยก็จ้างทนายฟ้องหย่า ผอ.อดีตสามี ผจก.แบงก์ จนเกิดความรักและความสัมพันธ์กับทนายความ ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมสังหาร 4 ศพ และยิงตัวตายตาม จากเงินที่โกงมาก็อยากให้เป็นกรณีตัวอย่าง พร้อมฝากทำอะไรอยากให้นึกถึงบาปบุญ
ส่วนที่ครูมาร้องต่อตนเองเพื่อให้ยื่นฟ้องกลับธนาคารนั้น จะได้รวบรวมหลักฐานและดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายต่อไป