นครปฐม - ตำรวจนำตัว "ไอ้แมกซ์" ทำแผนชี้จุดลวงสาวทอมผ่านแอปพลิเคชันว่าจ้างให้มาส่งที่นครปฐมแล้วฆ่าเพื่อชิงรถ ยังให้การวกไปวน อ้างเพื่อเป็นคนฆ่า ส่วนตนแค่นั่งมาในรถพร้อมแฟน แต่แฟนสาวยืนยันไม่ได้นั่งรถมาด้วย ตำรวจมั่นใจในหลักฐานพร้อมส่งให้อัยการสรุปสำนวนส่งฟ้องต่อไป
วันนี้ (21 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีลวงฆ่าสาวหล่อทิ้งศพในน้ำที่นครปฐม เมื่อเวลา 21.00 น.ของคืนวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนได้นำตัวนายณรงค์ศักดิ์ หรือแมกซ์ แซ่ผู่ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าสาวทอมและนำศพไปทิ้งจาก สน.มีนบุรี มาให้พนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม สอบปากคำในคดี ซึ่งในเบื้องต้น นายณรงค์ศักดิ์ได้รับสารภาพว่าได้เรียกใช้บริการรถของผู้ตายผ่านแอปพลิเคชันโบลท์ เมื่อทราบว่าคนขับเป็นผู้หญิงจึงวางแผนฆ่าชิงรถ โดยแกล้งทำเป็นเมา จะอ้วกแล้วบอกให้จอดข้างทาง และขอให้คนขับลงมาช่วย จากนั้นจึงฉวยโอกาสใช้แขนล็อกคอคนขับจนเสียชีวิต นำศพทิ้งอำพรางในป่าหญ้าข้างทาง แล้วนำรถไปขาย
ต่อมา เช้าวันนี้ พ.ต.อ.พายัพ โสธรางกูร ผกก.สภ.นครชัยศรี พ.ต.ท.คเชนท์ นิยมทอง รอง ผกก.สส. พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.นครชัยศรี ได้นำตัวนายณรงค์ศักดิ์ ผู้ต้องหาไปชี้จุดก่อเหตุ ริมถนนสายห้วยพลู-นครชัยศรี หมู่ 5 ต.สัมปทวน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม โดยขณะทำแผน นายณรงค์ศักดิ์ ยังคงแสดงอาการปวดท้อง และได้ชี้จุดจอดรถที่ตัวเองทำทีลงไปอ้วก
นายณรงค์ศักดิ์ ทำท่าทางที่อิดโรยเหมือนคนไม่มีแรง และอิดออด ไม่ยอมชี้จุดทิ้งศพ บอกว่าตัวเองไม่ได้ฆ่า ไม่ได้ทิ้งศพ ซึ่งยังคงให้การว่า ตนไม่ได้ทำ ในรถมี 3 คน คือตนเอง ทราย แฟนสาว และนายเอ็ม ส่วนตอนลงมือก่อเหตุ นายเอ็มซึ่งนั่งเบาะด้านหลังคนขับเป็นคนลงมือใช้แขนรัดคอคนตายจากด้านหลัง ตนนั่งอยู่ตรงกลาง ส่วน น.ส.ทราย แฟนสาว นั่งอยู่ซ้ายมือสุด ส่วนสายชาร์จมือถือตนไม่รู้ว่านายเอ็มไปรัดคอผู้ตายตอนไหน ซึ่งนายเอ็มเป็นคนลากศพไปทิ้งไว้ที่ข้างทาง จากนั้นตนได้เปลี่ยมาขับรถออกไป
การทำแผนใช้เวลาชี้จุดประมาณ 10 นาที ก่อนจะรีบนำตัวขึ้นรถตู้เพื่อส่ง สน. มีนบุรี ให้ทันฝากขังที่ สน.มีนบุรี
ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนได้นำตัว น.ส.ทราย แฟนของพวกนายณรงค์ศักดิ์ ผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากมีประเด็นที่ถูกโยงว่าขณะฆ่าสาวทอมนั้น น.ส.ทราย อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย จึงทำให้หลายคนสงสัยว่า น ส.ทรายมีส่วนรู้เห็นในการกระทำของนายณรงค์ศักดิ์ ซึ่งจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน น.ส.ทราย ในเบื้องต้นตั้งแต่แรกให้การว่าไม่ได้อยู่ด้วยกันในที่เกิดเหตุ แต่อยู่คนละที่ ซึ่งวันนี้ยังให้การยืนยันว่า ช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้นไม่ได้อยู่กับนายณรงค์ศักดิ์อย่างแน่นอน
ซึ่งในประเด็นดังกล่าวตอนนี้สามารถสอบสวนและสืบสวนได้นำพยานหลักฐานทั้งหมดที่มีเตรียมส่งให้อัยการสรุปสำนวนเพื่อส่งฟ้องต่อศาลต่อไป
