xs
xsm
sm
md
lg

ตม.หนองคายจับแก๊งขนเฮโรอีนข้ามโขง 19 กิโลฯ เตรียมส่งออกต่างประเทศราคาพุ่งสูง 198 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หนองคาย - ตำรวจ ตรวจคนเข้าเมืองหนองคายรวบ 5 ผู้ต้องหาแก๊งขนเฮโรอีนพร้อมของกลาง 19 กิโลฯ มูลค่ากว่า 19 ล้าน จากประเทศเพื่อนบ้านข้ามโขงเข้าประเทศเตรียมนำส่งออกต่างประเทศราคาสูงถึง 198 ล้าน สารภาพทำมาแล้ว 6 ครั้ง ส่วนอีกคดีจับแก๊งค้ามนุษย์ลวงเด็กหญิงลาวค้ามนุษย์

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (18 ก.ย. 67) ที่ห้องประชุมมิตรภาพ ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 (ผบก.ตม.4), พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย, ทหาร ตำรวจ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมคดียาเสพติดสำคัญ 2 คดี คดีแรกเป็นคดียาเสพติด จับผู้ต้องหา 5 ราย ประกอบด้วย นางวัน ชาวลาว, นางยง, นายแป๊ะ, นายด้วน และนายเอิบ ชาวไทย ของกลางเฮโรอีนซ่อนในกล่องโฟมล้างหน้า บรรจุในกระเป๋าสะพาย 4 ใบ ตรวจสอบตามกระบวนการวิทยาศาสตร์พบว่าเป็นเฮโรอีน จำนวน 180 กล่อง น้ำหนักประมาณ 19.800 กิโลกรัม (19 กิโลกรัม 800 กรัม) มูลค่าประมาณ 19.8 ล้านบาท


การจับกุมในครั้งนี้ พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดจำนวนมากเข้ามาในประเทศ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.หนองคาย ทราบและวางแผนจับกุมร่วมกับหน่วยงานข้างเคียง จนในวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมาพบเรือหางยาวแล่นมาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าเทียบท่าที่ท่าน้ำวัดกุมประดิษฐ์ ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ มี นายด้วนขับเรือ นางยง และนางวันนั่งโดยสารมาในเรือ เมื่อถึงฝั่งไทย นายแป๊ะที่รออยู่ริมฝั่งสั่งการให้นางยงและนางวันหิ้วกระเป๋ามาขึ้นรถสามล้อที่นางเอิบจอดรออยู่ จากนั้นนางเอิบได้ขับสามล้อพานางวันและนางยงไปยังสถานีขนส่งหนองคาย เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวได้ทั้งหมดพร้อมของกลาง


จากการสอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าเตรียมนำเฮโรอีนทั้งหมดนี้บรรจุกล่องพัสดุซุกซ่อนส่งไปยังประเทศออสเตรเลีย โดยทำมาแล้ว 6 ครั้ง หากนำไปยังออสเตรเลียได้เฮโรอีนเหล่านี้จะมีมูลค่าสูงถึง 198 ล้านบาท ซึ่งได้แจ้งข้อหา ร่วมกันนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เข้ามาในราชอาณาจักร แล้วส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าบ่อดำเนินการตามกฎหมาย

ส่วนอีกคดี เป็นการจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.หนองคาย สั่งการให้ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.หนองคาย หาข่าวขบวนการเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ จนทราบว่ามีเด็กหญิงถูกล่อลวงมาทำงานในร้านคาราโอเกะในพื้นที่ จ.หนองคาย ซึ่งแอบแฝงขายบริการทางเพศ โดยพบว่าเป็นเด็กหญิงลาวอายุประมาณ 13 ปี ลักลอบทำงานในร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง เมื่อเข้าตรวจสอบไม่พบเด็กหญิง จนทราบว่าได้ย้ายไปทำงานร้านคาราโอเกะ พื้นที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม


ต่อมาจึงได้ร่วมกับ ตม.นครพนม และ สภ.ศรีสงคราม เข้าตรวจสอบร้านคาราโอเกะเป้าหมาย พบนายเหน่ง อายุ 51 ปี ชาวไทย มีนางเล็ก ชาวลาวเป็นภรรยาและเป็นผู้ดูแลลูกจ้างหญิงชาวลาว 7 ราย ซึ่งไม่มีใบอนุญาตทำงาน โดยในจำนวนนี้มี 2 รายเป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี และ 13 ปี ชาวลาว จากการสอบถามทราบว่าเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ โดยนายเหน่งและนางเล็กได้จัดให้เด็กหญิงชาวลาวคอยบริการแขกที่มาเที่ยวในลักษณะนั่งดริงก์ ได้ค่าจ้างจากการนั่งดริงกฺแบ่งส่วนหนึ่งให้ร้านและของเด็กอีกส่วนหนึ่ง มีเสนอขายบริการทางเพศตามรีสอร์ตที่อยู่ใกล้เคียง โดยเจ้าของร้านทั้งสองได้รับผลประโยชน์จากการกระทำดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาเจ้าของร้านในข้อหาค้ามนุษย์ และให้การช่วยเหลือเด็กหญิงชาวลาวตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ ประสานตัวส่งกลับประเทศต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น