นครพนม- น้ำโขงสูงขึ้นต่อเนื่องไกล้แตะ12 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติเพียง 17 ซม. ผู้ว่าฯสั่งเฝ้าระวังใกล้ชิดอย่างไรก็ตามประชาชนริมน้ำและร้านค้าใต้ถึงลานพญานาคราชได้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงหมดแล้ว ยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น นายกเล็กเทศบาลเมืองนครพนมเผยสถานการณ์น้ำไม่น่ากลัวเท่าปี 61 ทุกภาคส่วนเตรียมตั้งรับสถานการณ์ไว้หมดแล้ว
วันนี้(17 ก.ย.) ที่จังหวัดนครพนม ระดับน้ำโขงที่สถานีวัดระดับน้ำบ้านหนองแสง อยู่ที่ระดับ 11.83 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติเพียง 17 ซม. ทำให้ลำน้ำสาขาเช่นลำน้ำสงคราม ลำน้ำอูนล้นตลิ่งเอ่อท่วมในหลายพื้นที่ ที่อยู่อาศัยติดลำน้ำ เนื่องจากน้ำไม่สามารถระบายลงน้ำโขงได้ ท่วมพื้นที่ทางการเกษตร ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ บ่อเลี้ยงปลา ในพื้นที่อำเภอบ้านแพง อำเภอท่าอุเทน อำเภอศรีสงคราม อำเภอนาหว้า รวมกว่า 70,000 ไร่
ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ได้เริ่มท่วมพื้นร้านค้าที่อยู่ใต้ลานพญาศรีสัตตนาคราช ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของเขตเทศบาลเมืองนครพนม แต่ไม่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากผู้ประกอบการร้านค้าได้เก็บและขนร้านสินค้าและสิ่งของต่าง ๆ ออกจากร้านค้าหมดแล้วทุกร้าน ตามการแจ้งเตือนของจังหวัดนครพนมแล้ว ในส่วนของพื้นที่อื่น ๆ ในเขตเทศบาลเมืองนครพนมก็ยังไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำโขงที่เพิ่มสูงขึ้นแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามนายกเทศมนตรีเมืองนครพนม ได้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดเหตุพร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง
นายวันชัย จันทร์พร ผวจ.นครพนม ได้ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ โดยประสานความร่วมมือให้ นายสมศักดิ์ บุญจันทร์ นายอำเภอเมืองนครพนม และ นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หมั่นลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ได้รับผลกระทบ และมอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประสานข้อมูลกับทางพื้นที่ ในการติดตามสถานการณ์ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองนครพนม ให้เตรียมความพร้อมในการรับมือ
หากเกิดกรณีน้ำโขงหนุนสูงจนถึงระดับวิกฤต เป็นเหตุให้น้ำไหลย้อนกลับเข้าเขตเทศบาลเมืองนครพนม จึงใช้วิธีปิดประตูน้ำ และระบายน้ำออกด้วยวิธีการสูบจากเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ของเทศบาลฯ ซึ่งได้เตรียมการไว้ทั้งหมด 6 จุดทั่วเมือง
ทางด้าน นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม เปิดเผยว่าแม้ระดับน้ำโขงจะเพิ่มสูงขึ้น แต่หากย้อนหลังกลับไปในปี 2561 ถือว่าปีนั้นวิกฤตมากกว่าเยอะ เพราะน้ำทะลุถึง 13 เมตรจนต้องปิดประตูระบายน้ำ เนื่องจากน้ำโขงจะสูงกว่าปากท่อ ต้องใช้วิธีสูบออกด้วยเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าดันน้ำออกจากตัวเมือง อีกทั้งมีสัญญาณที่ดีว่าพื้นที่ จ.หนองคาย และ จ.บึงกาฬ ปริมาณน้ำเริ่มคลี่คลาย ประมาณ 2 วันมวลน้ำก็จะถึงนครพนม
เชื่อว่าหากไม่มีฝนตกทางเหนือ ระดับน้ำก็จะลดลง ถึงตอนนี้ยังแจ้งเตือนด้วยธงสีเหลือง ทั้งนี้เขื่อนป้องกันตลิ่งพังอยู่สูงกว่า พื้นที่ใต้ถุนลานพญานาคประมาณ 2 เมตร ยังคงสามารถรองรับน้ำได้อีกเยอะ แต่ตามขั้นตอนก็ได้เตรียมแผนอพยพไว้เรียบร้อย รวมทั้งอาหารและที่พัก
