หนองคาย - หอการค้าหนองคายเผยตัวเลขสูญเสียทางเศรษฐกิจช่วงน้ำโขงล้นตลิ่งท่วม 6 อำเภอของจังหวัดหนองคาย ทั้งช่วงท่วมและช่วงฟื้นฟูหลังน้ำลด เสียหายไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท วอนรัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือ เกษตรกรทรุดแน่ขาดเงินขาดรายได้ พืชผลเสียหายหนัก โรงเรียนสั่งปิดชั่วคราว 20 แห่ง
สถานการณ์น้ำโขงล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอของจังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นมาตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ (16 ก.ย. 67) น้ำยังคงท่วมในหลายพื้นที่เป็นวงกว้าง โดยเฉพาะใจกลางเมืองหนองคาย ย่านเศรษฐกิจ ร้านค้าสองข้างทางถนนประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลเมืองหนองคาย และร้านค้าริมแม่น้ำโขง รวมถึงต่างอำเภอ ทุกร้านปิด ไม่สามารถค้าขายได้จนกว่าสถานการณ์น้ำโขงจะลดและผ่านพ้นช่วงฟื้นฟู
นางดวงใจ สุขเกษมสิน รองประธานหอการค้าจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า ชาวหนองคายได้ติดตามสถานการณ์น้ำมาตั้งแต่ช่วงน้ำท่วมเชียงราย เพราะคาดการณ์ว่าน้ำต้องไหลมายังแม่น้ำโขง นั่นจะส่งผลกระทบต่อชาวหนองคายอย่างแน่นอน ดังนั้นส่วนใหญ่จึงมีการเตรียมการไว้ก่อนล่วงหน้า ทั้งการขนย้ายข้าวของออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย แต่เมื่อน้ำมาจริงก็ส่งผลกระทบอยู่ดี เมื่อมองด้านเศรษฐกิจภาพรวมของจังหวัดซึ่งมีการค้าขายกับชาวลาวเป็นประจำ ร้านค้าปิด คนลาวมาซื้อของไม่ได้ ร้านค้าส่งสินค้าไม่ได้ ก็ต้องสูญเสียรายได้ คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
แต่เมื่อรวมทั้งต่างอำเภอที่ได้รับผลกระทบด้วยก็ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยสินค้าของจังหวัดหนองคายส่วนใหญ่เป็นภาคการเกษตร เมื่อพื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมพืชผลทางการเกษตรเสียหาย เกษตรกรจะได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ขาดรายได้ ขาดปัจจัยการผลิต ขอให้รัฐบาลพิจารณาช่วยเหลือเยียวยาให้ตรงจุดอย่างเร่งด่วน ภารกิจหลังน้ำลดก็จะเป็นการฟื้นฟูทั้งอาคารบ้านเรือน ร้านค้า สภาพจิตใจ และภาคการเกษตรต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกัน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองคายเขต 1 (สพป.นค.1) ได้แจ้งว่ามีโรงเรียนในสังกัด 3 อำเภอสั่งปิดการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราวจากสถานการณ์น้ำท่วมทั้งหมด 20 โรงเรียน อ.สังคม 7 โรงเรียน, อ.ศรีเชียงใหม่ 8 โรงเรียน และ อ.เมืองหนองคาย 5 โรงเรียน ซึ่งได้กำชับให้ครูดูแลนักเรียน เร่งสำรวจความเสียหาย ทำการเยียวยา และได้จัดหาถุงยังชีพ 200 ชุด ไปมอบแก่ครูและนักเรียนที่ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ด้วย