xs
xsm
sm
md
lg

“โรสแอปเปิล’ หรือชมพู่มะเหมี่ยว ผลไม้รสดีที่ชาวสวนแม่กลองไม่ควรมองข้าม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สมุทรสงคราม - ชมพู่มะเหมี่ยวนับเป็นผลไม้รสดีอีกชนิดหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม และด้วยความที่มีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นกุหลาบ อีกทั้งลักษณะของผลคล้ายกับแอปเปิล ชาวต่างชาติจึงมักเรียกชมพู่มะเหมี่ยวนี้ว่า “โรสแอปเปิล”

ใกล้ถึงฤดูชมพู่มะเหมี่ยวให้ผลผลิตแล้ว นายประสิทธิ์ สิงห์ชา เกษตร จ.สมุทรสงคราม นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หมู่ 2 ต.สวนหลวง อ.อัมพวา พบนายนายมนตรี ตันติรักส์ อายุ 60 ปี เกษตรกรชาวสวน ซึ่งประสบความสำเร็จในการเพาะปลูกผลไม้แบบผสมผสาน บนพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ ประกอบด้วย ลิ้นจี่พันธุ์ค่อม ส้มโอพันธุ์เขาใหญ่ และชมพู่มะเหมี่ยว กล่าวว่า การปลูกชมพู่มะเหมี่ยวของครอบครัวช่วงแรกๆ เมื่อ 40-50 ปีก่อน ยังไม่เป็นล่ำเป็นสันนัก

เนื่องจากยังขาดความรู้เรื่องการดูแล อีกทั้งราคาชมพู่มะเหมี่ยวขณะนั้นยังไม่ดีเท่าที่ควร แต่ปัจจุบันทั้งราคาและการตลาดชมพู่มะเหมี่ยวนับว่าดีมาก จนเกือบจะเทียบได้กับลิ้นจี่และส้มโอผลไม้ขึ้นชื่อของ จ.สมุทรสงคราม จึงมีเกษตรกรส่วนหนึ่งหันมาปลูกชมพู่มะเหมี่ยวกันมากขึ้น

นายมนตรี กล่าวว่า ก่อนที่จะมาเป็นสวนชมพู่มะเหมี่ยวใหญ่ที่สุดใน จ.สมุทรสงครามครอบครัวตนได้ทดลองปลูกไว้เพียงแค่ 2 ต้นที่หน้าบ้านเพื่อเอาผลไว้รับประทานเอง ต่อมาเมื่อผลดกจึงลองนำไปขายที่ตลาดแม่กลอง มีผู้ที่ชื่นชอบติดใจในรสชาติซื้อหาไปรับประทานกันมากขึ้น และราคาอยู่ในระดับที่น่าพอใจจึงได้ขยายพื้นที่ปลูกเกือบ 100 ต้น โดยใช้วิธีทาบกิ่ง เพราะพุ่มจะเตี้ยให้ผลผลิตเร็วเก็บผลผลิตง่าย ดีกว่าการเพาะเมล็ดซึ่งต้นจะสูงให้ผลผลิตช้า และยังมีโอกาสกลายพันธุ์ได้ง่าย

ส่วนการดูแลรักษาไม่ยุ่งยากนักเพียงแค่รดน้ำวันเว้นวัน และให้ปุ๋ยคอกตามความจำเป็น และเมื่อชมพู่มะเหมี่ยวอายุ 3-5 ปี จะเริ่มผลิดอกออกผล ระยะแรกๆ จะให้ผลผลิตค่อนข้างน้อย ประมาณ 20-30 กิโลกรัมต่อต้นต่อปีเท่านั้น แต่เมื่อต้นมีอายุราว 10 ปีขึ้นไป จะให้ผลผลิตมากขึ้นราว 80-100 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี แต่ขึ้นอยู่กับการดูแลและสภาพดินฟ้าอากาศด้วย

สำหรับช่วงติดดอกถึงดอกบานของชมพู่มะเหมี่ยว จะใช้เวลา 45-60 วัน และช่วงติดผลอ่อนจนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิตจะใช้เวลาอีกประมาณ 60 วันนับตั้งแต่ดอกบาน ช่วงที่ชมพู่มะเหมี่ยวให้ผลผลิตมากที่สุดอยู่ระหว่างเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมีนาคมของทุกปี ช่วงนี้นี่เองที่ชาวสวนเริ่มใช้ถุงพลาสติกชนิดมีหูหิ้วขนาด 8 คูณ 10 นิ้วห่อผลที่มีขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือและเริ่มออกสีแดงเรื่อ การห่อนอกจากจะทำให้สีสวยแล้ว ยังป้องกันแมลงรบกวนและกระรอกสวนที่ชอบกินชมพู่มะเหมี่ยวเป็นอย่างมากอีกด้วย

โดยเมื่อผลชมพู่มะเหมี่ยวแก่ได้ที่จะออกสีแดงเข้มและส่งกลิ่นหอม นั่นแสดงว่าพร้อมแล้วสำหรับการเก็บเกี่ยว ชาวสวนจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวังและทะนุถนอมเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้ผลช้ำ เพราะชมพู่มะเหมี่ยว เป็นผลไม้ที่ผิวเปลือกบางมาก และมีอายุการขายค่อนข้างสั้น หลังเก็บผลผลิตมาแล้วต้องนำมาคัดเลือกขนาดใส่เข่งที่มีความหนาพิเศษบุด้วยใบตองสด หรือกระดาษหนังสือพิมพ์ทุกชั้นเพื่อไม่ให้ผลชมพู่เบียดกันจนผิวช้ำจะทำให้ตกเกรดขายไม่ได้ราคา และยังทำให้ง่ายต่อการขนส่งไปจำหน่าย ส่วนราคาชมพู่มะเหมี่ยวจากสวนจะอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 50-80 บาทเกือบทุกปี แต่ขึ้นอยู่กับขนาดผลด้วย

นายประสิทธิ์ สิงห์ชา เกษตร จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า จากการเยี่ยมชมสวนของนายมนตรี ตันติรักส์ ใน ต.สวนหลวง อ.อัมพวา พบว่าชมพู่มะเหมี่ยวประมาณ 60-70 ต้น เริ่มออกดอกเตรียมให้ผลผลิตฤดูกาลนี้แล้ว สำหรับ จ.สมุทรสงคราม มีเกษตรกรชาวสวนปลูกชมพู่มะเหมี่ยวยังไม่มากนัก ส่วนใหญ่ปลูกแซมตามร่องสวน แต่ความต้องการชมพู่มะเหมี่ยวของตลาดจะเห็นได้จากนักท่องเที่ยวที่มา จ.สมุทรสงครามแล้วมักจะถามหา ตนจึงเห็นว่าชมพู่มะเหมี่ยวแม้ปัจจุบันจะให้ผลผลิตเพียงปีละครั้งช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์

แต่เป็นผลไม้ที่เกษตรกรชาวสวนไม่ควรมองข้าม เพราะไม่ว่าด้านรูปลักษณ์ สีสัน ขนาดของผล และรสชาติที่อร่อยหอมหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ทำให้เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก และส่วนหนึ่งรอคอย ทำให้แนวโน้มทางการตลาดมีทีท่าว่าจะสดใสไม่แพ้ผลไม้เลื่องชื่อทั้งลิ้นจี่และส้มโอ ซึ่งสำนักงานเกษตร จ.สมุทรสงคราม จะสนับสนุนเกษตรกรชาวสวนให้ใช้พื้นที่ว่างปลูกชมพู่มะเหมี่ยวกันให้มากขึ้น และจะผลักดันให้เป็นผลไม้เศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งของ จ.สมุทรสงครามต่อไป












กำลังโหลดความคิดเห็น