xs
xsm
sm
md
lg

รองอธิบดีกรมอุทยานฯ นำทีมเปิดยุทธการทวงคืนผืนป่า หลังกลุ่มบุคคลแต่งกายคล้ายฤาษีลักลอบยึดพื้นที่เขตอุทยานฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี - รองอธิบดีกรมอุทยานฯ นำทีมเปิดยุทธการทวงคืนผืนป่า หลังกลุ่มบุคคลแต่งกายคล้ายฤาษี ลักลอบยึดพื้นที่เขตอุทยานฯ พร้อมติดประกาศอ้างพระบรมราชโองการ ใครจะมารื้อทำลาย ฆ่าตายไม่ผิดกฎหมาย

จากกรณีเกิดสถานการณ์ไฟป่าขึ้นในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของจังหวัดกาญจนบุรีอย่างรุนแรงเมื่อช่วงประมาณเดือน ก.พ.67 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่ป่าอนุรักษ์เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ และเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐต่างๆได้สนธิกำลังร่วมกันบูรณาการในการลุยเข้าพื้นที่เพื่อดับไฟป่าอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน


โดยระหว่างวันที่ 13-15 ก.พ.67 เจ้าหน้าที่ตรวจพบจุด Hotspot บนยอดเขา ท้องที่บ้านองหลุ หมู่ 3 ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ จำนวน 3 จุด ประกอบด้วย พิกัดที่ 497898 E 1640624 N พิกัดที่ 498766 E 1641036 N และพิกัดที่ 498620 E 1639350 N ตามลำดับ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จึงเดินทางเข้าไปตรวจสอบเพื่อทำการดับไฟ ซึ่งต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงกว่าจะเดินทางไปถึง เพราะจุดเกิด Hotspot อยู่บนภูเขาที่สูงชัน

เมื่อไปถึงพบกลุ่มบุคคลทั้งชายหญิงไม่ทราบสัญชาติจำนวนหนึ่งแต่งกายคล้ายนักบวชหรือฤาษี มีการไว้ผมมวย และห้อยลูกประคำสีดำ โดยไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปภายในชุมชน จากการสังเกตพบปากทางเข้าชุมชนมีซุ้มประตู ติดป้ายประกาศเอาไว้ว่า “2506 รัฐธรรมนูญกฎหมายมาตรา 1 แต่งตั้งพระบรมราชโองการ อนุมาศอำนาจพระมหากษัตริย์ แต่งตั้งสั่งชาวเขาเจอสถานที่ องโกให้ติดรูปภาพฉบับนี้ เจ้าหน้าที่ราชการทุกหน่วยจะมารื้อทำลาย ฆ่าตายไม่ผิดกฎหมาย พระบรมราชโองการอนุมัติสั่ง”


ระหว่างชุดควบคุมไฟป่าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์พักค้างคืน มีชาวกะเหรี่ยง เป็นชายคอยเฝ้าดูเจ้าหน้าที่ประมาณ 4 คน เมื่อเจ้าหน้าที่ส่องไฟไปพบกลุ่มบุคคลดังกล่าว สะพายอาวุธปืนลักษณะเหมือนปืนเล็กยาวจำนวน 4 กระบอก จึงได้รายงานข้อเท็จจริงให้ผู้บังคับบัญชาทราบ หลังจากนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทราบ จึงได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทหารในพื้นที่เพื่อเข้าเจรจาเพื่อให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวอพยพออกไปให้พ้นจากผืนแผ่นดินไทย แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ยินยอม

ดังนั้น นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงได้มอบหมายให้ นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) รวมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และนายคุณากร บุญเกื้อสง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เข้าพบ ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายฑรัท เหลืองสอาด ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี นายศิริรัตน์ บำรุงเสนา นายอำเภอศรีสวัสดิ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดประชุมแบบบูรณาการเพื่อวางแผนในการดำเนินการนำกำลังเข้าจับกุม ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปเจรจามาแล้วหลายครั้ง แต่ผลการเจรจาไม่ประสบผลสำเร็จ


เมื่อวันที่ 11 ก.ย.67 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่นำโดย นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า พันธุ์พืช นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปรามและควบคุมไฟป่า นายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายศิริรัตน์ บำรุงเสนา นายอำเภอศรีสวัสดิ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พ.ต.อ.มานะ สำราญวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ ตชด.13 เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ด่านแม่แฉลบ เจ้าหน้าที่ ตร.กก.5 บก.ปทส.นำกำลังประมาณ 200 นาย เดินทางลงพื้นที่และมีการประชุมวางแผนที่กองบัญชาการบนแพชั่วคราวท่าน้ำ ต.นาสวน อ.ศรีสวัสดิ์ โดยแบ่งกำลังชุดปฏิบัติการออกเป็น 3 ชุด โดยชุดปฏิบัติการที่ 1 ทำหน้าที่ในเข้ายึดคืนพื้นที่และจับกุมตัวผู้กระทำความผิด ส่วนชุดปฏิบัติการที่ 2 และ 3 คอยให้การสนับสนุน โดยแผนการจะเริ่มขึ้นในเวลา 04.00 น.ของวันที่ 12 ก.ย.67

ล่าสุด วันนี้ (12 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการชุดที่ 1 นำโดย นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า พันธุ์พืช เริ่มปฏิบัติการเคลื่อนกำลังกว่า 170 นาย เดินทางเข้าพื้นที่ จนกระทั่งเวลา 08.00 น.จึงเดินทางไปถึง โดยทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีการปะทะกันแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้จับกุมคนในชุมชนฤาษี ได้ จำนวน 30 ราย เป็นชาย 11 ราย หญิง 10 ราย เด็กหญิงและชาย จำนวน 9 ราย จากการตรวจค้นภายในชุมชน พบอาวุธปืน จำนวน 5 กระบอก หลังจากควบคุมตัวกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบปากคำเพิ่ม ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี


จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีสวัสดิ์ ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ในข้อกล่าวหา ฐานยึดถือหรือครอบครองที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ตามมาตรา 19 (1) ประกอบมาตรา 41 ฐานเก็บหา นำออกไป กระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพ ซึ่งไม้ ดิน หิน ตามมาตรา 19 (2) ประกอบมาตรา 42

ฐานเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ ตามมาตรา 19 (6) ประกอบมาตรา 44 ฐานนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆ เข้าไป ตามมาตรา 19 (7) ประกอบมาตรา 45 ฐานเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 20 ประกอบมาตรา 47

และตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ฐานความผิดเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 11 ประกอบมาตรา 62 และพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 ฐานก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า ตามมาตรา 54, 55 ประกอบมาตรา 72 ตรี


โดยนายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหากลุ่มคนบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ กล่าวว่า การที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ร่วมปฏิบัติการตรวจยึดพื้นที่และดำเนินการจับกุมกลุ่มคนบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ในครั้งนนี้นั้น

สืบเนื่องจากพบกลุ่มคนไม่มีสัญชาติบุกรุกตำบลนาสวน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ โดยตั้งเต็นท์กระโจมใต้ต้นไม้เพื่อเป็นที่พักอาศัย ทราบว่ามีอาวุธปืนไว้คอยปกป้องคุ้มครองตนเอง พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง และมีการประสานให้สมาชิกเข้ามาในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์มากขึ้นเรื่อยๆ

ปฏิบัติการครั้งนี้เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ได้ดำเนินการจับกุมกลุ่มคนกะเหรี่ยงซึ่งบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้ 30 คน ประกอบด้วย ผู้ชาย 11 คน ผู้หญิง 10 คน และเด็ก 9 คน พร้อมของกลาง ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นกลุ่มลัทธิประหลาดที่หลอกลวงให้คนนับถือ และปรากฏว่าในพื้นที่บุกรุกพบศพผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ศพ มีลักษณะห่อผ้าไว้ โดยผู้ถูกจับกุมแจ้งว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมของเจ้าลัทธิประหลาด อีกทั้งประชาชนในพื้นที่ไม่เห็นด้วย เพราะสร้างปัญหา ความหวาดกลัวให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ ผลปฏิบัติการในครั้งนี้ได้รายงานให้นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ ทราบแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่ามียูทูบเบอร์ชาวกะเหรี่ยงรายหนึ่งได้กล่าวเอาไว้ในยูทูบ ว่า หัวหน้าที่ถูกจับกุมมีหน้าที่คล้ายผู้ที่หลอกชาวกะเหรี่ยงทำบัตรโดยอ้างว่าสามารถเดินทางได้ 196 ประเทศทั่งโลก ชาวกะเหรี่ยงที่หลงเชื่อเสียเงินไปคนละ 5,000 บาท หลายราย
กำลังโหลดความคิดเห็น