ศูนย์ข่าวศรีราชา - ไทยออยล์จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อจัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการท่าเทียบเรือ หมายเลข 7 และ 8 การเปิดใช้ทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2)
วันนี้ (11 ก.ย.) นายถิรยุทธ ลิมานนท์ ผู้จัดการฝ่ายกิจการสัมพันธ์บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เป็นประธานการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อรับฟังความเห็นต่อร่างรายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการท่าเทียบเรือ หมายเลข 7 และ 8 (การเปิดใช้งานทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2)) พร้อมด้วย นายฐานธวัช อิงค์อนันต์นาท ปลัดอำเภอศรีราชา นายธานี เกียรติพิพัฒนกุล รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง ผู้แทนส่วนราชการ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ผู้นำทางศาสนา ประชาชนร่วมงาน
นายถิรยุทธ ลิมานนท์ ผู้จัดการฝ่ายกิจการสัมพันธ์ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม โดยเริ่มกลั่นน้ำมันดิบให้เป็นน้ำมันสำเร็จรูป ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2507 และรับน้ำมันดิบจากเรือขนถ่ายน้ำมันดิบ ผ่านทางทุ่นผูกเรือกลางทะเล จำนวน 3 ทุ่น ประกอบด้วย Single Buoy Mooring (SBM) จำนวน 2 ทุ่น และ Conventional Buoy Mooring (CBM) จำนวน 1 ทุ่น โดยขนถ่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัท และบริษัทในกลุ่มไทยออยล์ ผ่านทางท่าเทียบเรือหมายเลข 1-8 เพื่อขนถ่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์ของบริษัทในกลุ่มที่มีอยู่ในปัจจุบัน
เนื่องด้วยปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุญาตเปิดใช้งานทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2) จากกรมเจ้าท่าโดยบริษัทได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการ ดังนี้ คือขอติดตั้งท่ออ่อนลอยน้ำ (Floating Hose) สำหรับขนถ่ายน้ำมันดิบของทุ่นผูกเรือกลางทะเลหมายเลข 2 (SBM-2) ชุดใหม่ และนำเสนอขั้นตอนการบริหารจัดการขนถ่ายน้ำมัน การบำรุงรักษาอุปกรณ์ และมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการขนถ่ายน้ำมัน ด้านสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องให้รัดกุมยิ่งขึ้น
ซึ่งการดำเนินการโครงการดังกล่าวจะต้องจัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม นำเสนอต่อหน่วยงานอนุญาต คือ กรมเจ้าท่า เพื่อประกอบการอนุญาตเปลี่ยนแปลงรายงาน และด้วยบริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญของผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อชุมชน และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ อีกทั้งเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชน จึงได้มอบหมายให้บริษัท ยูไนเต็ด แอนนาลิสต์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นผู้ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและดำเนินการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียในครั้งนี้ขึ้น
เพื่อที่คณะผู้ศึกษาจะได้นำข้อเสนอแนะไปปรับปรุงมาตรการให้ครบถ้วน รอบด้าน และจัดทำเป็นรายงานการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อนำส่งกรมเจ้าท่าพิจารณาตามลำดับขั้นตอนต่อไป
ด้านตัวแทนประชาชนที่เข้าร่วมงานในวันนี้ หลังจากฟังการนำเสนอรายละเอียดของโครงการ รวมทั้งวิธีการแก้ไขปัญหา และมาตรการป้องกันต่างๆ หากเกิดผลกระทบ ต่างเห็นด้วยกับโครงการ และขอให้ทางโครงการได้ดำเนินการตามมาตรการที่ กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด