xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านเมืองช้างฮือต้าน! โครงการสร้างบ่อบำบัดสิ่งปฏิกูล 300 ล้านเทศบาลเมืองสุรินทร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สุรินทร์- ชาวบ้านเมืองช้างลุกฮือต้านโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดสิ่งปฏิกูล 300 ล้าน เทศบาลเมืองสุรินทร์ ชี้ผวาส่งผลกระทบระบบนิเวศสิ่งแวดล้อมและสุขภาพคนในชุมชน ซ้ำเติมปัญหาบ่อบำบัดน้ำเสีย แฉทำประชาคมชาวบ้านยกมือค้านไม่เอาแต่เมินเสียงประชาชน แอบนำเข้าที่ประชุมสภา ทม.สุรินทร์- อบต.มีมติไฟเขียวโครงการ

วันนี้ ( 10 ก.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองสุรินทร์ ได้มีตัวแทนชาวบ้านจาก หมู่ 1 หมู่10 และหมู่ 12 ตำบลแกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ กว่า 30 คน ได้พากันยืนถือป้ายคัดค้านโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดสิ่งปฏิกูล ของเทศบาลเมืองสุรินทร์ ระบุข้อความ เช่น คัดค้านการก่อสร้างบ่อบำบัดสิ่งปฏิกูล ชาวบ้านไม่เอาขี้ , รักป่า รักน้ำ รักสิ่งแวดล้อม , แกใหญ่ไม่เอา เชื้อโรค ของเหม็นเน่าเสีย ไม่ให้ก่อสร้าง เป็นต้น เพื่อเรียกร้องและค้านการก่อสร้างบ่อบำบัดสิ่งปฏิกูล ของเทศบาลเมืองสุรินทร์ที่ขอทำกิจนอกเขตที่ อบต.แกใหญ่ จำนวน 31 บ่อ งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท


ทั้งนี้เนื่องจากจะสร้างผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ ไม่เฉพาะแค่ตำบลแกใหญ่ ยังมีชาวบ้านตำบลท่าสว่างและตำบลนาดี ที่อยู่ติดแนวลำห้วยทับพล-ห้วยระหาร ไหลผ่านก่อนจะไหลลงสู่ลำน้ำชี ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งระบบนิเวศและการเกษตร ที่ผ่านมาชาวบ้านทนทุกข์มามากพอแล้ว จึงขออย่าได้มาซ้ำเติมชาวบ้านอีก

ก่อนจะยื่นหนังสือร้องทุกข์คัดค้านโครงการก่อสร้างระบบกำจัดสิ่งปฏิกูลในพื้นที่ บ้านแกใหญ่ ต่อทางนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุรินทร์ รวมถึงได้ยื่นหนังสื่อไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ทั้ง อบต.แกใหญ่ , อำเภอเมืองสุรินทร์ , ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้พิจารณาทบทวนผลกระทบที่ชาวบ้านจะได้รับต่อโครงการดังกล่าว


นายอาทิตย์ โชติวิริยวานิชย์ ตัวแทนชุมชนบ้านแกใหญ่ หมู่ 1 , 10 และหมู่ 12 กล่าวว่า วันนี้มายื่นคัดค้านการก่อสร้างบ่อบำบัดสิ่งปฏิกูล ของเทศบาลเมืองสุรินทร์ที่ขอทำกิจนอกเขตที่ อบต.แกใหญ่ อ.เมืองสุรินทร์ และตอนนี้ได้มีการขออนุญาตในสภา อบต.แกใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยมีมติเสียงส่วนใหญ่ให้ดำเนินการได้ ซึ่งชาวบ้านได้คัดค้านประเด็นนี้มาโดยตลอดตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ก็ไม่เป็นผลและพอชาวบ้านทราบว่าจะมีการสร้างก็ได้มีการมารวมตัวกันเพื่อคัดค้าน


ประเด็นหลักคือโครงการของเทศบาลเมืองสุรินทร์ มีการดำเนินการอยู่แล้วในเรื่องของบ่อบำบัดน้ำเสีย ซึ่งน้ำเสียจากเขตเทศบาลจะไหลไปสู่ห้วยทับพล ก่อนเข้าไปสู่สถานที่บำบัดน้ำเสียเทศบาลเมืองสุรินทร์ ซึ่งปัจจุบันระบบบำบัดน้ำเสียก็ยังมีปัญหาอยู่ คือน้ำเสียยังไม่ถูกรวบรวมเข้าไปสู่ระบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ชาวบ้านที่อยู่ติดลำห้วยทับพลก็จะได้รับผลกระทบ ตอนนี้ก็ยังมีการเรียกร้องฟ้องร้องกันอยู่ในหลายจุดหลายหมู่บ้าน คือน้ำเสียเทศบาลเมืองสุรินทร์ส่งผลกระทบกับพื้นที่ตำบลแกใหญ่ ตำบลท่าสว่างและตำบลนาดี มาเป็นระยะเวลามายาวนาน 20-30 ปีมาแล้ว หลังมีการเรียกร้องก็ยังไม่มีชาวบ้านได้รับการเยียวยาอย่างจริงจัง แล้วยังจะเอาโครงการกำจัดปฏิกูลมาลงอีก ซึ่งมันเป็นการซ้ำเติมพื้นที่ มันก็เป็น 2 โครงการอยู่ในที่เดียวกัน


อยากให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าไปศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมก่อน ไม่ว่าจะเป็น อีไอเอ ซึ่งประเด็นการร้องเรียนอยู่ในหนังสือที่เรายื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งผลกระทบต่อชุมชน ผลกระทบต่อสุขภาพของคนในชุมชนก่อนที่จะดำเนินการใดๆ ซึ่งมีการประชาคมไปแล้วแต่ไม่เอาเสียงของประชาชนไปพิจารณาร่วมด้วย


นางรินรดา ขันทวี ชาวบ้านหมู่ 1 กล่าวว่า เราเห็นว่าที่จะมีการสร้างบ่อนั้นมันอยู่ใกล้แหล่งน้ำกินน้ำใช้และแหล่งท่องเที่ยว จริงๆ เราคัดค้านการดำเนินการของเทศบาลเมืองสุรินทร์ เพราะเขาทำบ่อบำบัดน้ำเสียที่มีอยู่แล้วมันก็ยังไม่ได้ผล ยังทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนและมีการฟ้องร้องกัน แล้วยังทำซ้ำอีกโดยการทำบ่อปฎิกูลมันยิ่งทำให้แย่ไปกันใหญ่ เหมือนเป็นการซ้ำเติมชาวบ้าน ซึ่งเราต้องการทำแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ใกล้เมือง การเดินทางก็สะดวกอยู่ติดถนนสายบายพาส และหากมีการสร้างบ่อแล้วเขาบริหารจัดการไม่ดีชาวบ้านก็แย่ เพราะเราไม่มั่นใจในการทำงานของเทศบาลเมืองสุรินทร์อยู่แล้ว


เมื่อปี 2566 ได้มีการทำประชาคมในเรื่องนี้มาแล้ว โดยชาวบ้านยกมือคัดค้านไม่ผ่านโครงการนี้ เขาก็เลยบอกว่าไม่ใช่การประชาคม ชาวบ้านเลยทำหนังสือคัดค้านไปตั้งปี 2566 พอวันที่ 23 ส.ค.67 ได้มีการนำเข้าประชุมสภาระหว่าง ทม.สุรินทร์และอบต.แกใหญ่ โดยที่ไม่บอกชาวบ้านรับทราบ มีการลงมติเห็นชอบ 5 ต่อ 4 เสียง ถ้าโครงการนี้เกิดขึ้นชาวบ้านที่จะได้รับผลกระทบแน่นอนคือ ม.10,12และม.1 ชาวบ้านทุกข์ระทมน้ำที่เคยสูบเข้านาทำการเกษตรได้ ตอนนี้สูบเข้านา ข้าวก็ตายไม่ได้ผลผลิต ปลาในน้ำ ก็นำมารับประทานไม่ได้ เพราะเนื้อปลามีแต่กลิ่นผงซักฟอก กลิ่นสบู่ ตัวดำกินไม่ได้ ระบบนิเวศเสียหายหมดแล้ว




กำลังโหลดความคิดเห็น