เชียงใหม่ - เลขาธิการ ป.ป.ส.บินลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ หลังปะทะเดือดกลุ่มลำเลียงยาเสพติดบริเวณชายแดน ยิงดับฝ่ายตรงข้าม 6 ศพ พร้อมยึดยาบ้า 1.3 ล้านเม็ด โดยยกย่องชื่นชมกำลังพลที่อดทนปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมท่ามกลางสภาพยากลำบาก กำชับต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและหลักกฎหมาย ขณะเดียวกันย้ำยังคงเดินหน้าเข้มข้นกวาดล้างเครือข่ายสำคัญ
วันนี้ (9 ก.ย. 67) ค่ายพิชิตปรีชากร ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.อ.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (ผบ.นบ.ยส.35) และคณะ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ลงพื้นที่ร่วมกันติดตามและตรวจสอบสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน หลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกับกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.15 น. กองกำลังผาเมือง โดยกองบังคับการควบคุมทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ได้ลาดตระเวนและปะทะกับกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดบริเวณช่องทางธรรมชาติห้วยน้ำเย็น บ.ห้วยน้ำเย็น ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ผลการปฏิบัติฝ่ายทหารไทยปลอดภัย พบกลุ่มขบวนการเสียชีวิต 6 ราย เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดยาบ้าได้จำนวน 1,300,000 เม็ด บรรจุในกระสอบเป้ดัดแปลงจำนวน 13 เป้ พร้อมอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ปลอกกระสุนปืนลูกซอง และปลอกกระสุน AK-47 จำนวนหนึ่ง
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ได้รับฟังรายงานสถานการณ์และข้อมูลการปฏิบัติงานจากหน่วยงานในพื้นที่ พร้อมหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยกล่าวชื่นชมกำลังพลที่อดทน ร่วมมือร่วมใจกันเฝ้าลาดตระเวนและพัฒนากลยุทธ์ แม้สภาพอากาศและภูมิประเทศในการปฏิบัติหน้าที่จะมีความยากลำบาก พร้อมเน้นย้ำให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรการด้านความปลอดภัยและปฏิบัติตามหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียในการปฏิบัติงาน และยังพูดถึงการปฏิบัติงานในพื้นที่ฝาง ที่มีการเปิดยุทธการ "ตัดไฟแต่ต้นลม" ครั้งที่ 1 ที่อำเภอฝาง ซึ่งเป็นการป้องปรามและติดตามเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ที่มีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มขบวนการของ จะลอโบ่ และวีระ หมื่นจะดา โดยจากนี้ทาง ป.ป.ส .ยังคงมีการติดตามเครือข่ายเพื่อรวบรวมหลักฐานการกระทำผิดและทำการจับกุมต่อไป ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในการปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคเหนือ โดยตั้งเป้าหมายลดปัญหายาเสพติดให้ได้ภายใน 1 ปี