ลำพูน - ผู้ต้องขังหนุ่มเมียนมา คาดเป็นทหารหนีทัพ โดนจับฐานหลบหนีเข้าเมือง วางแผนเนียน..ขอผงซักฟอกบอกจะซักผ้า แต่กลับใช้กรอกปากตัวเองจนน้ำลายฟูมปาก ตร.พาส่ง รพ.เสร็จ กลับถึงโรงพักนิคมฯ ลำพูน ฉวยโอกาส จนท.เปิดประตูรถตราโล่วิ่งหนีทันทีขณะกุญแจยังคาข้อมือ
ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำพูน นำตัวนายเทโพ อายุ 38 ปี ชาวเมียนมา ผู้ต้องขังตาม พ.ร.บ.ต่างด้าว หลบหนีเข้าเมือง หลังกลับจากไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหริภุญชัยเพื่อนำตัวไปเข้าห้องขัง เมื่อรถจอดหน้าโรงพักเวลาประมาณ 19.15 น.เศษ ผู้ต้องขังที่ยังถูกสวมกุญแจมืออยู่ได้ฉวยโอกาสเจ้าหน้าที่เปิดประตูรถยนต์สายตรวจวิ่งหลบหนีเข้าไปทางหมู่บ้านพญาผาบ หมู่ที่ 1 ต.บ้านกลาง อ.เมืองลำพูน ซึ่งเป็นชุมชนและด้านหลังเป็นทุ่งนาและป่ารก
เจ้าหน้าที่ได้วิ่งติดตามไปแต่ไม่ทัน จึงระดมกำลังกันทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย ผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่และบริเวณหมู่บ้านใกล้เคียง โดยมี พ.ต.อ.ปริญญา ชัยเววา ผกก.สภ.นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ ร่วมอำนวยการค้นหา มีการใช้ไฟส่องสว่าง-โดรนบินค้นหา
แต่เวลาผ่านไปนานกว่า 3 ชั่วโมงการค้นหาก็ยังไม่พบตัวนายเทโพ ผู้ต้องขังที่หลบหนี พบเพียงร่องรอยการเหยียบย่ำหญ้าเป็นรายทางก่อนจะหายไป เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังกันเฝ้าพื้นที่และตระเวนตรวจสอบโดยทั่วทุกหมู่บ้านใกล้เคียงต่อไป
พ.ต.อ.ปริญญา ชัยเววา ผกก.สภ.นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า นายเทโพ ผู้ต้องขังถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จับกุมได้ในเขตตำบลมะเขือแจ้ และเตรียมนำตัวผลักดันออกนอกประเทศ ซึ่งตามข้อมูลพบว่าผู้ต้องขังเป็นทหารเมียนมาที่หลบหนีเข้ามาหรือทหารหนีทัพ เข้ามาในประเทศไทย จึงมีความชำนาญในการหลบหนีและหลบซ่อนตัว
คาดว่าการหลบหนีครั้งนี้เป็นการวางแผนหลบหนี เนื่องจากถูกขังอยู่ในห้องขังในโรงพักนานกว่า 10 วัน ผู้ต้องขังได้มีการร้องขอผงซักฟอกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยอ้างว่าต้องการซักผ้า เจ้าหน้าที่จึงจัดหามาให้ หลังจากนั้นผู้ต้องขังจึงได้ทำการดื่มผงซักฟอกและน้ำยาสระผม ทำให้น้ำลายฟูมปาก
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลหริภุญชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง ทางแพทย์แจ้งว่าอาการของผู้ต้องขังปลอดภัยเนื่องจากผงซักฟอกยังเข้าไปไม่ถึงลำไส้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวกลับโรงพักเพื่อที่จะได้นำตัวเข้าห้องขัง ขณะที่รถยนต์สายตรวจกำลังจอดหน้าโรงพักและกำลังเปิดประตู ผู้ต้องขังได้วิ่งหลบหนีไปทั้งๆ ที่ยังสวมกุญแจมืออยู่ ซึ่งน่าจะเป็นช่วงจังหวะที่รอโอกาสหลบหนีตามที่ได้วางแผนไว้ และเชื่อว่าขณะที่ไปโรงพยาบาลก็วางแผนจะหลบหนีแต่ไม่สบโอกาส จึงอาศัยจังหวะหลบหนีขณะลงจากรถแทน
ด้านการติดตามนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจและส่วนที่เกี่ยวข้องยังคงระดมกำลังกันค้นหาอย่างต่อเนื่องต่อไปจนกว่าจะได้ตัวมาดำเนินคดี และฝากแจ้งถึงพี่น้องประชาชนหากพบผู้ต้องสงสัยตามภาพ ให้แจ้ง 191 ได้ตลอดเวลา