พระนครศรีอยุธยา - รพ.สต.วัดตะกู ถูกน้ำจากแม่น้ำน้อยล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมชั้นล่างของตัวอาคารโรงพยาบาล แต่ก็สู้ไม่ถอย เจ้าหน้าที่เร่งขนอุปกรณ์ทางการแพทย์ไว้ที่ปลอดภัย พร้อมดูแลชาวบ้านผู้ป่วยในชุมชน ร่วมฝ่าฟันผ่านวิกฤตเกือบทุกปี
วันนี้ (6 ก.ย.) สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลทำให้แม่น้ำน้อยซึ่งรับน้ำมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชน วัดโรงเรียน และสถานที่ราชการ รวมถึงสถานพยาบาลในชุมชน ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวัดตะกู อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
ถูกน้ำจากแม่น้ำน้อยล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมชั้นล่างของตัวอาคารโรงพยาบาล และบริเวณโดยรอบ ต้องขนอุปกรณ์ทางการแพทย์ เอกสาร ข้าวของเครื่องใช้ไปไว้ที่ชั้น 2 ของตัวโรงพยาลบาล และต้องเร่งก่อกำแพงสูงประมาณ 1.50 เมตร กั้นน้ำไม่ให้เข้าท่วมภายในอาคารชั้นล่างป้องกันการเสียหายภายใน และต้องคอยวิดน้ำออกเนื่องจากมีบางจุดรั่วซึม เจ้าหน้าที่เดินเข้าออกโรงพยาบาลต้องใช้สะพานแทนนำไม้มาต่อทำนั่งร้านเดินเข้าไป
นางณัฐนันท์ เสลา อายุ 39 ปี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวัดตะกู (รพ.สต.) เปิดเผยว่า เพียงแค่ 2 วันน้ำไหลเข้าท่วมโรงพยาบาลสูงประมาณ 60-90 ซม. ต้องขนย้ายอุปกรณ์ทางการแพทย์บางส่วนขึ้นเอาไว้ที่สูงป้องกันความเสียหาย ก่อกำแพงปูนเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมชั้นล่างป้องกันความเสียหายของตัวอาคาร ถ้าหากน้ำท่วมไม่สูงมากเท่าเมื่อปีที่ผ่านมา
นางณัฐนันท์ บอกอีกว่า ในชุมชนเรามีผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางที่ต้องดูแลอยู่ตลอด เยี่ยมที่บ้าน ตรวจอาการ แจกยา รักษาที่บ้านมาตลอด ถ้าน้ำท่วมสูงมากกว่าการเดินทางเข้าออกของเจ้าหน้าที่ การไปดูแลผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางจะลำบากมากขึ้น ต้องพายเรือไปตามบ้านของผู้ป่วยที่ถูกน้ำท่วม อาจจะต้องออกไปตั้งหน่วยเพื่อให้บริการชาวบ้านที่ถนน จะไม่มีการหยุดให้บริการ จะช่วยเหลือประชาชน ชาวบ้านในชุมชนอย่างเช่นทุกปีที่ผ่านมา อยากจะให้มีสะพานทางเข้าออกโรงพยาบาล กับถนนสายหลัก เพื่อความสะดวกทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชนที่จะมารับบริการจากโรงพยาบาล และเพื่อความปลอดภัยด้วย
ทั้งนี้ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวัดตะกู เจ้าหน้าที่ 4 คน มี 9 หมู่ 565 หลังคาเรือนในพื้นที่การดูแล รวมถึงผู้ป่วยติดเตียง กลุ่มเปราะบางที่อยู่ในการดูแล 14 คน