สมุทรสาคร - เพลิงไหม้โรงงานขยะรีไซเคิล-ผลิตเม็ดพลาสติกสมุทรสาคร นานกว่า 7 ชม. เจ้าหน้าที่จากหลายพื้นที่ระดมรถดับเพลิง 20 คันระงับเหตุ ส่งกลิ่นเหม็นฟุ้งกระจายทำให้ต้องอพยพชาวบ้านใกล้เคียงออกนอกพื้นที่ ล่าสุดเช้านี้เพลิงสงบแล้ว
กลางดึกวานนี้ (5 ก.ย.) ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รุนแรงเกิดขึ้นที่บริษัทซีโนไทยมารีนโปรดักส์ จำกัด ตั้งอยู่พื้นที่หมู่ที่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งประกอบกิจการรับซื้อและผลิตพลาสติก จึงได้รีบรายงานให้ นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมกับประสานรถดับเพลิงจากในจังหวัดสมุทรสาครจำนวนหลายคัน และรถสนับสนุนรวมเกือบ 20 คัน เข้าระงับเหตุ
ในที่เกิดเหตุเพลิงกำลังโหมลุกไหม้กองยาง และกองพลาสติกเก่าอย่างรุนแรงภายในอาคารโกดังด้านในโรงงาน โดยมีทั้งกลุ่มควันกับเปลวเพลิงจำนวนมากพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า ส่งผลทำให้ประชาชนที่อยู่โดยรอบโรงงานหวาดกลัว ทั้งปัญหากลิ่นเหม็นจากพลาสติกที่ถูกเผาไหม้ และความร้อน พากันย้ายออกจากที่พักอาศัยมาอยู่ด้านนอกเป็นการชั่วคราว เบื้องต้น ยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ด้าน ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เปิดเผยว่า บริษัทที่เกิดเหตุมีลักษณะการประกอบการเป็นที่รับซื้อของเก่า หรือขยะรีไซเคิล และผลิตเม็ดพลาสติก ซึ่งของพวกนี้เป็นพวกที่ติดไฟได้ง่าย เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และติดได้นาน เลยทำให้เกิดการลุกไหม้อย่างรุนแรง ส่วนพื้นที่โดยรวมของบริษัทนี้มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 40-50 ไร่ แต่ที่เก็บกองวัสดุแล้วเกิดเพลิงไหม้มีอยู่ราว 4-5 ไร่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไรต้องควบคุมเพลิงสงบลงให้ได้เสียก่อน แล้วถึงจะได้เรียกเจ้าของบริษัทมาสอบถาม พร้อมกับให้ทางเจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป
ร.ต.ประพันธ์ เปิดเผยอีกว่า สำหรับแผนดับเพลิงในตอนนี้ต้องควบคุมให้เพลิงอยู่ในวงจำกัดไม่ลุกลามไปยังอาคารอื่น และบ้านเรือนประชาชนโดยรอบ โชคดีที่โรงงานแห่งนี้มีกำแพงกั้นไว้สูง และหลังจากนี้ยังจะต้องไปตรวจสอบข้อมูลของโรงงาน รวมถึงระบบการดับเพลิงการควบคุมเพลิงของโรงงานด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 07.00 น. วันนี้ (6 ก.ย.) เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้อย่างรุนแรงได้แล้ว หลังจากระดมรถดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียงเข้าสนับสนุนที่เกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอุปสรรคในการดับเพลิงครั้งนี้คือ มีลมแรง และแหล่งน้ำธรรมชาติมีไม่เพียงพอ อีกทั้งวัสดุในโรงงานติดไฟง่าย
จากการตรวจสอบพื้นที่ภายในโรงงานพบว่า เพลิงลุกไหม้โกดังล็อกที่ 2 และล็อกที่ 3 สำหรับโกดังล็อกที่ 2 เป็นที่เก็บวัสดุจำพวกเม็ดพลาสติก ส่วนล็อกที่ 3 ซึ่งอยู่ด้านใน เป็นกองยางรถยนต์จำนวนมาก
