xs
xsm
sm
md
lg

นายกสมาพันธ์ทุเรียน ตอ. จี้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบเหตุจีนพบสารแคดเมียมในทุเรียนจากไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตราด -​ นายกสมาพันธ์ทุเรียนภาคตะวันออก จี้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบเหตุจีนพบการปนเปื้อนสารแคดเมียมในทุเรียนที่ส่งไปจากประเทศไทย มั่นใจไม่ใช่ทุเรียนจากภาคตะวันออกอย่างแน่นอน ชี้้กรมส่งเสริมการเกษตร ต้องเร่งหาคำตอบเหตุกระทบภาพลักษณ์โดยรวมทุเรียนทั้งประเทศ

วันนี้ (5 ก.ย.)​ นายชลธี นุ่มหนู นายกสมาพันธ์ทุเรียนภาคตะวันออก ได้ออกมาเปิดเผยถึงกรณีที่ประเทศจีนตรวจพบสารแคดเมียมเกินมาตรฐานในทุเรียนจากไทยว่า เป็นเรื่องที่หน่วยงานเกี่ยวข้องจะต้องตรวจสอบต้นทางของปัญหาว่ามาจากที่ใด เนื่องจากสารแคดเมียมที่พบเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ 0.05 มก.ต่อกิโลกรัม โดยเฉพาะการพบสารแคดเมียมในช่วงผลผลิตทุเรียนภาคใต้และทุเรียนเวียดนามออกสู่ตลาด จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัยและเคลือบแคลงว่าเพราะเหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์​เช่นนี้ขึ้น

และเป็นเรื่องที่กรมวิชาการเกษตร จะต้องรีบตรวจสอบโดยเร็ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งแก้ปัญหาและพิสูจน์ให้เห็นว่าทุเรียนของไทยไม่มีสารแคดเมียมเจือปน เพราะเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อเกษตรกรชาวสวนทุเรียนไทย

“วันนี้ต้องหาคำตอบให้แน่ชัดว่าทุเรียนที่ปนเปื้อนสารแคดเมียมมาจากพื้นที่ใด จังหวัดใดและใช้แหล่งน้ำจากสายไหน รวมถึงเป็นเปื้อนจากกระบวนการผลิตใช้ปุ๋ย ใช้ยา และเป็นยาแบบไหน ประเภทไหน ปุ๋ยชนิดใด หรือหากปนเปื้อนจากกระบวนการแพกบรรจุต้องบอกว่าสารชนิดไหน แต่สิ่งที่เราชาวสวนทุเรียนมีสิทธิที่จะตั้งคำถามว่าการปนเปื้อนเกิดจากการสวมสิทธิใช่หรือไม่ เพราะที่ผ่านมามันมีขบวนการของการนำใบรับรองสุขอนามัยพืชของไทยไปสวมที่เวียดนามและแปลงสัญชาติเป็นทุเรียนไทยเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกระงับการส่งออกทุเรียนของเวียดนามใช่หรือไม่"


นายชลธี ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าหลังเกิดปัญหาดังกล่าว นายศักดินัย นุ่มหนู ประธานกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ ได้ทำหนังสือไปที่กรมวิชาการเกษตร เพื่อให้ชี้แจงถึงสาเหตุการพบสารแคดเมียมในทุเรียนแล้วและคาดว่าน่าจะได้คำตอบในเร็วๆ นี้

"ยืนยันว่าทุเรียนในภาคตะวันออกไม่มีการปนเปื้อนของสารแคดเมียมอย่างแน่นอน เพราะพื้นที่การปลูกของจังหวัดในภาคตะวันออกไม่มีแหล่งทำอุตสาหกรรมหรือแหล่งน้ำที่มีการปนเปื้อนของน้ำเสียที่มีสารแคดเมียมปะปนอยู่ อีกทั้งภาคตะวันออกของไทยมีการปลูกทุเรียนมามานานนับ 100 ปี และไม่เคยพบว่ามีสารแคดเมียมปะปนอยู่ ขณะที่แผนที่ของกรมพัฒนาที่ดินมีการระบุชัดเจนว่าที่ดินในภาคตะวันออกไม่มีสารแคดเมียมปะปนอยู่ และหากหน่วยงานเกี่ยวข้องยังคงล่าช้าเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของทุเรียนไทยอย่างแน่นอน"

ด้าน นายเรือง ศรีนางราง ประธานสภาเกษตรจังหวัดตราด เผยว่า การพบแคดเมียมในทุเรียนไทยจากการแจ้งของคู่ค้าในประเทศจีน เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบและรอการพิสูจน์จากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเรื่องนี้ยังตอบชัดเจนไม่ได้ว่าเป็นทุเรียนไทยหรือไม่ แต่เป็นเรื่องที่เสียหายต่อภาพลักษณ์ของทุเรียนไทย

"ในพื้นที่ภาคตะวันออกเราปลูกทุเรียนมานานกว่า 40 ปี ยืนยันว่าไม่มีแน่นอน แต่ในส่วนที่พบสารปนเปื้อนนั้น หากเกิดจากปัญหาแหล่งใดจะต้องมีการดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพราะไม่เช่นนั้นแล้วจะยิ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของทุเรียนทั้งประเทศ และจะเกิดความเสียหายกับเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนทั้งประเทศ และจะกระทบต่อมูลค่าการส่งออกทุเรียนไปต่างประเทศที่มีมูลค่านับแสนล้านบาทอย่างแน่นอน" ประธานสภาเกษตรจังหวัดตราด กล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น