xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป) เร่งแจกหญ้าพระราชทานให้วัวควายกินหลังน้ำท่วมพื้นที่เกษตร ทุ่งหญ้าจมน้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครพนม - อำเภอศรีสงครามเร่งนำหญ้าพระราชทานออกแจกจ่าย หลังน้ำอูน และน้ำสงครามยังคงเอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่เกษตรและทุ่งหญ้า ต้องอพยพ วัว ควาย ไปเลี้ยงในที่สูงทำให้ได้รับผลกระทบขาดแคลนอาหารอย่างหนัก


วันนี้( 4 ก.ย.) ที่ จ.นครพนม แม้ระดับน้ำโขงจะลดลงต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับประมาณ 9.94 เมตร ห่างจากจุดล้นตลิ่งประมาณ 2 เมตร ในช่วง 2-3 วัน ที่ผ่านมาหลังระดับน้ำโขง ขึ้นสูงสุดเกือบ 11 เมตร ได้เริ่มลดระดับต่อเนื่องวันละประมาณ 20 -30 เซนติเมตร แต่ยังมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ คือ พื้นที่โซนเหนือ อ.ศรีสงคราม เป็นหลัก เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดกับลำน้ำอูน ไหลมาบรรจบ ลำน้ำสงคราม แม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขง หลังน้ำโขงสูง ทำให้ไหลระบายลงน้ำโขง ช้า

ส่งผลให้มีปริมาณน้ำเกินความจุ เอ่อล้น เข้าท่วมพื้นที่นาข้าว และพื้นที่ลุ่มเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ทำให้ เกษตรกรไม่มีพื้นที่เลี้ยงสัตว์ ต้องอพยพ วัว ควาย ไปเลี้ยงในที่สูงทำให้ได้รับผลกระทบขาดแคลนอาหารอย่างหนัก


ล่าสุดนางสาวกรณ์กาญจน์ แก้วดี นายอำเภอศรีสงคราม พร้อมด้วยปศุสัตว์จังหวัด ร่วมกับปศุสัตว์อำเภอ และอาสาปศุสัตว์ รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์นครพนม ได้นำ หญ้าอาหารสัตว์อัดแท่ง พระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 8,000 กิโลกรัม ออกแจกจ่ายให้กับเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนเพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว

ในพื้นที่บ้านท่าบ่อสงครามมีประชาชน 85 ราย และสัตว์เลี้ยงโคกระบือ จำนวน 785 ตัว ได้รับการสนับสนุนในครั้งนี้ ซึ่งผู้เลี้ยงยังขอสนับสนุนหญ้าแห้งได้ต่อเนื่อง




นอกจากนี้ยังได้แจกเวชภัณฑ์รวมถึงให้ความรู้ เครื่องป้องกันโรคระบาดในสัตว์เลี้ยง เสี่ยงเป็นโรคปอดบวมและท้องเสีย โดยให้เกษตรกรเฝ้าระวังสัตว์ที่เลี้ยงอย่างใกล้ชิด หากพบผิดปกติ ให้แจ้งอาสาปศุสัตว์หรือปศุสัตว์ตำบลปศุสัตว์อำเภอใกล้บ้านทันที


ขณะเดียวกัน นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ระดมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจ ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น มอบถุงยังชีพ พร้อมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำรวจความเสียหาย เพื่อจะได้จัดสรรงบประมาณไปชดเชยเยียวยาตามระเบียบทางราชการ และดูแลให้ความช่วยเหลือทุกด้าน และยังประกาศให้ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอชายแดน ติดน้ำโขงและลำน้ำสาขาให้เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง หากมีฝนตกลงมาซ้ำอีกจะส่งผลให้ลำน้ำสาขามีมวลน้ำไหลมาสมทบมากขึ้น อาจส่งผลกระทบซ้ำอีก โดยคาดว่าจะต้องมีการเฝ้าระวังไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายนเนื่องจากยังคงมีฝนตกสะสมในพื้นที่แทบทุกวัน


กำลังโหลดความคิดเห็น