สามเหลี่ยมทองคำ - ผ่านมา 2 คืน 2 วันยังไร้วี่แวว..30 ชีวิตแรงงานชาวเมียนมา เหยื่อเรือล่ม-สูญหายไปกับกระแสน้ำโขงลุ่มสามเหลี่ยมทองคำ หลังเหมาเรือลาวออกจากเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองต้นผึ้ง มุ่งหน้าขึ้นฝั่งเมืองพง ท่าขี้เหล็ก กลับพม่า
กรณีแรงงานชาวเมียนมาจำนวนประมาณ 40-50 คน นั่งเรือโดยสารขนาดเล็กออกจากเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงลุ่มสามเหลี่ยมทองคำ ตรงข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อจะไปเมืองพง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา แต่ได้ประสบอุบัติเหตุเรือล่มเพราะเครื่องยนต์ขัดข้องและน้ำโขงไหลเชี่ยว จนทำให้มีผู้สูญหายไปอย่างน้อย 30 คน และมีผู้ได้รับการช่วยเหลือขึ้นฝั่งได้ประมาณ 10 คน เมื่อเย็นวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดรายงานข่าวจากฝั่ง สปป.ลาวแจ้งว่าจนถึงช่วงสายวันนี้ (4 ก.ย.) ผ่านมา 2 คืน 2 วันทางการลาวก็ยังไม่พบร่างของผู้สูญหายจากเหตุเรือล่มในแม่น้ำโขง ขณะที่มีการจัดทีมกู้ภัยนำเรือเล็กออกตรวจตราตั้งแต่บริเวณจุดเกิดเหตุเรื่อยไปถึงพื้นที่เมืองห้วยทรายซึ่งอยู่ถัดจากเมืองต้นผึ้งลงไป เนื่องจากขณะนี้แม้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงจะลดแต่ก็ลึกมากกว่า 5 เมตร และไหลเชี่ยว คาดว่าร่างของผู้สูญหายอาจถูกพัดไปไกลถึงเขตติดต่อทั้ง 2 เมือง หรือเขตติดต่อระหว่าง อ.เชียงแสน กับ อ.เชียงของแล้ว
ด้าน พ.ต.ท.บดินทร์ ศรีอ่อน สารวัตร สถานีตำรวจน้ำเชียงแสน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุดังกล่าวก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำทำการเฝ้าระวังและตรวจตราตามแนวริมฝั่งในเขตพื้นที่รับผิดชอบของฝั่งไทยเพื่อดูว่ามีผู้รอดชีวิตลอยคอมาหรือไม่ ซึ่งหากพบก็จะทำการช่วยเหลือ หรือหากพบว่าเสียชีวิตแล้วก็จะประสานไปยังทางการ สปป.ลาว เพื่อจัดการตามขั้นตอนต่อไป แต่ก็ยังไม่พบร่างของผู้ประสบเหตุเข้ามาถึงฝั่งไทยแต่อย่างใด
สำหรับแรงงานชาวเมียนมาที่ประสบเหตุ มีรายงานว่าเคยทำงานอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง และถูกตรวจพบว่าไม่ได้เข้าเมืองอย่างถูกต้องและไม่มีใบอนุญาตในการทำงานด้วย ต่อมาเจ้าหน้าที่ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าวได้เข้มงวดเรื่องการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการหลบหนีเข้าเมืองและการทำงาน ทั้งหมดจึงถูกส่งตัวกลับประเทศเมียนมา
โดยมีการเช่าเรือโดยสารสัญชาติ สปป.ลาว แล้วลงไปบนเรืออย่างแออัด กระทั่งเรือแล่นไปถึงสามเหลี่ยมทองคำ เครื่องยนต์เกิดขัดข้องและเรือที่จะเข้าไปช่วยเหลือก็ถูกพัดจมลงไปด้วย จนคนบนเรือสูญหายไปกับกระแสน้ำโขงดังกล่าว