xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป) พรึ่บ! ชาวสะเอียบนัดพร้อมต้านปลุกผีเขื่อนแก่งเสือเต้น แห่โลงแช่ง “ปลอด-สมศักดิ์-อ้วน” จ่อปิดหมู่บ้านซ้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แพร่ - ชาวสะเอียบเรียงหน้ายันต้านปลุกผีเขื่อนแก่งเสือเต้นทันที..หลังน้ำยมล้นฝั่งทะลักท่วมแพร่-สุโขทัย นักการเมืองใหญ่ปัดฝุ่นจ่อดันโครงการขานรับกันเป็นลูกระนาด นัดพร้อมชุมนุมใหญ่แห่โลงแช่ง “ปลอด-สมศักดิ์-อ้วน” จ่อปิดหมู่บ้านจำกัดคนเข้าออก


หลังน้ำยมล้นฝั่งหลากทะลักท่วมตั้งแต่แพร่-สุโขทัยซ้ำในปีนี้..รัฐบาลเตรียมปลุกผีโครงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นที่ ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ อีกครั้ง บรรดานักการเมืองใหญ่ขานรับกันเป็นลูกระนาด ขณะที่ชาวสะเอียบกว่า 2,000 ครอบครัวต่างเสียใจต่อการตัดสินใจที่จะกลับมาสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นอีกครั้ง

แกนนำต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการประชุมเครียด หลายกลุ่มชาวบ้านทั้งบ้านแม่เต้น บ้านดอนแก้ว บ้านดอนชัย และบ้านดอนชัยสักทอง ต่างพากันออกมาพูดกันในตลาดถึงกรณีที่รัฐบาลตัดสินใจ ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของรัฐบาลในขณะนี้

นายเส็ง ขวัญยืน อดีตกำนันตำบลสะเอียบ และแกนนำต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น สมัยที่มีกระแสรุนแรงกว่า 20 ปีมาแล้ว ปัจจุบันเป็นผู้อาวุโสของหมู่บ้าน กล่าวว่า คิดไว้ในใจแล้วว่าต้องมีคนปลุกผีแก่งเสือเต้นขึ้นมา ซึ่งจากการต่อสู้เรื่องแก่งเสือเต้นมาหลายยุคหลายรัฐบาล พบว่าการอนุมัติงบศึกษาโครงการสร้างเขื่อนใช้เงินงบประมาณครั้งละ 100-200 ล้านแล้วก็ไม่เกิดอะไร ถ้ารัฐบาลเอางบประมาณที่ไปศึกษามาแก้ปัญหาน้ำ สร้างโครงการขนาดเล็ก ขนาดกลาง บล็อกน้ำแต่ต้นทางป่านนี้คงจะบรรเทาไปได้มากแล้ว

“น้ำท่วมครั้งนี้ยังถือว่าโชคดีที่น้ำสาขาแม่น้ำยมไม่มีน้ำป่าออก มีเพียงต้นน้ำที่ อ.ปง ถ้าบล็อกน้ำตามโครงการกิ่วผาวอก โครงการน้ำเม่า โครงการน้ำลู น้ำยมก็จะไม่ท่วมและแทบจะไม่มีน้ำไหลลงแม่น้ำยม ขณะที่น้ำปี๊ในเขต อ.เชียงม่วน จ.พะเยา เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำท่วมแพร่-สุโขทัย เพราะมีโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำนานแล้ว แต่ไม่เสร็จ ผู้รับเหมาทิ้งงาน ประกอบกับมีน้ำที่ไหลมาจาก อ.บ้านหลวง จ.น่าน ด้วย อยากให้นักวิชาการทำวิจัย ถ้าบล็อกน้ำปี๊ได้ทั้งหมดจะมีความรุนแรงเมื่อน้ำหลากสักกี่เซ็นต์ กี่เมตร ศึกษาให้รู้ชัดเจน”

ชาวสะเอียบสู้เรื่องแก่งเสือเต้นกันมานานกว่า 30 ปี นับแต่ปี พ.ศ. 2532 เป็นต้นมา มีแกนนำต่อต้านเขื่อนสิบกว่าคนแล้ว บางคนอายุมาก เสียชีวิตไปก็มี โดยเฉพาะกำนันชุม สะเอียบคง ที่เสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว เรื่องนี้ไม่รู้จบเพราะรัฐบาลเลี้ยงไข้มากกว่า ประชากรใน 4 หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากปี 2538 เป็นต้นมา

“วันนี้สะเอียบมีเศรษฐกิจดี เก็บภาษีได้ปีละ 500 ล้านเศษ ถือว่าไม่ธรรมดาแล้ว เป็นชุมชนที่อยู่ร่วมกันหนาแน่น ถ้าเป็นไปตามรัฐบาลว่าจะเป็นเรื่องใหญ่สร้างความวุ่นวาย ความเดือดร้อนต่อประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับบาปจากภัยธรรมชาติ”

ส่วนแนวทางการเคลื่อนไหว หลังมีการปลุกผีเขื่อนแก่งเสือเต้นนั้น นายเส็ง ขวัญยืน กล่าวว่า ชาวสะเอียบคงต้องกลับไปใช้วิธีเดิมๆ..มาแบบเดิมเราก็ไปแบบเดิม ฟังจากการประชุมสรุปว่าไม่มีวิธีไหนที่จะดีกว่าวิธีที่เคยปฏิบัติมา แบบนุ่มนวลก็เคยทำมาแล้ว แต่อยู่ได้ชั่วขณะหนึ่ง ต่อไปก็คงต้องใช้ระบบเหมือนปี 2538 คงจะมีการประกาศปิดพื้นที่ ห้ามผู้เกี่ยวข้องเข้ามาหาข้อมูลต่างๆ อย่างเช่นกรมชลประทานที่ทำโครงการค้างๆ ไว้ ต้องมาพูดกันอีกครั้งว่ามีความจริงใจมากแค่ไหน ถ้าจะทำเหมือนที่ผ่านๆ มาก็เหมือนว่า “หลอกกัน”


นายณัฐปคัลภ์ ศรีคำภา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสะเอียบ ในฐานะแกนนำต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น กล่าวว่า ได้ติดตามข่าวนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี คือจะเอาป่า 100,000 ไร่ที่แพร่ไปแลกกับที่ทับลาน เรื่องนี้ทำไม่ถูกต้อง รัฐบาลไม่เคยคิดศึกษาผลกระทบในแต่ละจังหวัดก่อน จะเอาป่าของชาวแพร่ไปแลกกับทับลาน ชาวสะเอียบไม่ยอม

การต่อสู้ต้านเขื่อนของชาวสะเอียบ วันนี้แม้แกนนำสำคัญๆ หลายคนเสียชีวิตไปแล้ว โดยเฉพาะกำนันชุม สะเอียบคง แต่ชาวสะเอียบมีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่ อย่าคิดว่า นายชุม สะเอียบคง อดีตนายกอบต.สะเอียบ หมดไปแล้วจะไม่มีคนไหนขึ้นมาทดแทนอีก เพราะคนรุ่นใหม่ยืนยันจะขอสู้ต่อไป จะปกป้องผืนป่าสักทองที่เป็นป่าสำคัญแห่งสุดท้ายของประเทศให้ได้

และโครงการที่ชุมชนเสนอ คือ “โครงการจัดการน้ำแบบสะเอียบโมเดล” มีปัจจัยหลายอย่างที่ภาครัฐทำไม่เสร็จหรือไม่ให้ความสำคัญ ถ้าทำตามปกติจะแล้วเสร็จจะสามารถบรรเทาภัยพิบัติได้อย่างสมบูรณ์ แต่ที่ยังดำเนินการล่าช้าเพื่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่หรือเปล่า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสการต่อต้านเขื่อนแก่งเสือเต้นของชุมชนสะเอียบครั้งนี้ ถือว่าแรง แม้แต่ผู้อาวุโสของหมู่บ้านยังเชื่อว่าชาวสะเอียบต้องใช้วิธีรุนแรง เช่นในอดีตมีการปิดถนน ปิดหมู่บ้าน ประณาม การกระทำของภาครัฐ ขณะที่นอกชุมชนสะเอียบเริ่มเกิดความขัดแย้งทางความคิดและอาจบานปลายไปถึงการสร้างความเกลียดชังแบ่งแยกตามมา

อย่างไรก็ตาม ทางราชการในจังหวัดแพร่ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ แต่ชาวบ้านในชุมชนสะเอียบกำลังประชุมเตรียมการและจำกัดคนเข้าออกในหมู่บ้าน มีการนำรายชื่อนักการเมืองทั้ง 3 คน คือ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายปลอดประสพ สุรัสวดี ไปให้ผีเจ้าบ้านดูที่บริเวณศาลผีเจ้าบ้านหอแดง และขอคำแนะนำว่าจะจัดการกับนักการเมืองทั้ง 3 คนอย่างไร และชาวบ้าน 4 หมู่บ้านได้นัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 7 กันยายน แห่โลงศพนักการเมืองไปทำพิธีสาปแช่งที่หอแดง หน้า รพ.สต.สะเอียบ ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น