สามเหลี่ยมทองคำ – ยังไร้วี่แวว 30 ชีวิตเหยื่อเรือล่มกลางน้ำโขงลุ่มสามเหลี่ยมทองคำ..ผบช.ภ.5 สั่งตำรวจส่องริมฝั่งตลอดแนว ย้ำเจอแรงงานเมียนมาตกน้ำโขงให้ช่วยทันที แต่ล่าสุดยังไม่พบผู้สูญหายแม้แต่รายเดียว ด้านชาวเรือชายแดนเชียงแสน คาดบรรทุกเกินพิกัด-เครื่องขัดข้อง เจอน้ำโขงไหลแรงซัดพลิกคว่ำจมยกลำ
ความคืบหน้ากรณีเรือโดยสารรับเหมาพาชาวเมียนมาไม่ต่ำกว่า 40 ชีวิต ออกจากฝั่งลาวเลาะโขงสามเลี่ยมทองคำ คาดกำลังมุ่งหน้าขึ้นฝั่งท่าขี้เหล็กกลับเมียนมา ล่มกลางแม่น้ำโขงจมยกลำ คนเห็นเหตุการณ์ช่วยได้ 10 ที่เหลือยังสูญหาย เมื่อเย็นวันที่ 2 ก.ย.67
เบื้องต้นมีรายงานว่าเรือที่เกิดเหตุเป็นเรือโดยสารสัญชาติ สปป.ลาว ซึ่งไม่ใช่เรือรับส่งคนข้ามแดนไทย-สปป.ลาว-เมียนมา ตามปกติ แต่เป็นเรือเหมาพาชาวเมียนมา เดินทางจากฝั่ง สปป.ลาว เลาะริมฝั่งแม่น้ำโขงในเขต สปป.ลาว มุ่งหน้าจะไปทางฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก
นายณัฐพล จันทโบแว่น อายุ 23 ปี คนขับเรือท่องเที่ยวสามเหลี่ยมทองคำ กล่าวว่าจุดที่เกิดเหตุอยู่ไกลจากฝั่งไทยพอสมควรทำให้เห็นไม่ชัดเจนนัก แต่พอเห็นเหตุการณ์ได้ โดยพบว่าเรือที่่ล่มกำลังพยายามที่จะบรรทุกโดยสารออกจากท่าเรือในฝั่ง สปป.ลาว โดยมีการผลักดันหัวเรือออกจากฝั่งแล้ว
แต่คาดว่าสตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ติด ก่อนจะมีเรืออีกลำพยายามมาชักลากเพื่อช่วยเหลือ แต่ด้วยกระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวมากทำให้เรือพลิกคว่ำผู้โดยสารทั้งหมดตกและไหลไปกับกระแสน้ำ บางคนก็ถูกน้ำพัดเข้าท้องเรือที่อยู่ริมตลิ่ง แม้คนในพื้นที่จะพยายามใช้เรือออกไปช่วย แต่ก็ช่วยได้บางส่วนเท่านั้น แต่ไม่รู้จำนวนว่ามีผู้โดยสารเท่าไหร่จึงไม่รู้ว่าช่วยได้กี่คนและสูญหายไปกี่คนกันแน่
นายณัฐพล กล่าวด้วยว่าช่วงนี้การเดินเรือในแม่น้ำโขงค่อนข้างจะอันตราย เนื่องเป็นช่วงฤดูน้ำหลากน้ำจะไหลเชี่ยว และเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยเฉพาะช่วงเรือบรรทุกสินค้า เรือบรรทุกปูนซีเมนต์ แล่นผ่านยิ่งทำให้เกิดคลื่นใหญ่ เรือเล็กเสี่ยงจะคว่ำได้ คนขับเรือจึงต้องขับด้วยความระมัดระวังและบรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน 12 คน กรณีที่เกิดเรือล่มนี้เชื่อว่าน่าจะบรรทุกผู้โดยสารมากเกินไปและเครื่องยนต์อาจขัดข้อง
ด้าน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 กล่าวว่าทางตำรวจภาค 5 พอทราบเหตุการณ์แล้วว่าเป็นการบรรทุกแรงงานชาวเมียนมา ข้ามจากพรมแดนสปป.ลาว ไปยังชายแดนเมียนมา แต่เกิดอุบัติเหตุเรือล่มระหว่างทาง ซึ่งพบว่ามีผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก และยังมีสูญหายในแม่น้ำโขง
อย่างไรก็ตาม ทางการเมียนมาหรือ สปป.ลาวยังไม่ประสานขอความช่วยเหลือมายังทางการไทย แต่ทางตำรวจเองไม่ได้นิ่งนอนใจได้ให้ทางตำรวจประสานทีมงานกู้ภัยช่วยดูแลตลอดแนวน้ำโขง เพื่อช่วยเหลืออีกทาง หากพบเห็นก็ให้ช่วยทันที แต่จนถึงขณะก็ยังไม่พบผู้สูญหายหรือผู้เสียชีวิตเพิ่มแต่อย่างใด
