ชัยนาท - กรมชลฯ ปรับเพิ่มระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 1,500 ลบ.ม./วินาที เตือน 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา เตรียมรับน้ำสูงขึ้นอีก 40 ซม.
วันนี้ (3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยาวันนี้ เมื่อเวลา 06.00 น. เขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนจาก 1,399 เป็น 1,449 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนที่ อ.สรรพยา น้ำสูงขึ้นจากเมื่อวาน 18 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 12.64 เมตร(รทก) ต่ำกว่าตลิ่ง 3.74 เมตร ส่วนน้ำเหนือเขื่อนที่ อ.เมืองชัยนาท มีปริมาณ 1,752 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำสูงขึ้นจากเมื่อวาน 31 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 16.77 เมตร(รทก) และปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 จ.นครสวรรค์ ทรงตัวอยู่ที่ปริมาณ 1,551 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 6/2567 ลงวันที่ 2 กันยายน 2567 ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำ และประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้านที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
เนื่องจากกรมชลประทานคาดการณ์ว่า ใน 1- 7 วันข้างหน้า ในวันที่ 9 กันยายน 2567 จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ประมาณ 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และปริมาณน้ำจากลำน้ำสาขาจะมีปริมาณ 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณ 1,900 ลูกบาศก์เมตรวินาที จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นในอัตราระหว่าง 1,400-1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำสูงขึ้นจากปัจจุบันอีก 25-40 เซนติเมตร