xs
xsm
sm
md
lg

เชียงใหม่ถกทุกหน่วยเกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำ-สั่งทุกอำเภอเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำป้องกันปัญหา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงใหม่-ผู้ว่าฯเชียงใหม่นั่งหัวโต๊ะประชุมทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำ พบเขื่อนใหญ่ทั้ง2แห่งยังรองรับน้ำได้อีกมาก พร้อมสั่งการเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่องทุกอำเภอ เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์และป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วม


นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานติดตามสถานการณ์อุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม จังหวัดเชียงใหม่ ปี 2567 ครั้งที่ 2/2567 ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SwocG) ตำบลวัดเกต อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ 2ก.ย.67 เพื่อติดตามข้อมูลสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำและรวบรวมข้อมูล นำมาวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์น้ำ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือ โดยมี ส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือได้รายงานสภาพภูมิอากาศที่จะเกิดขึ้นในอีก 7 วันข้างหน้า และในห้วงเดือนกันยายนนี้ ว่าในช่วงต้นเดือนกันยายน ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังลมแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้คาดว่าจังหวัดเชียงใหม่จะได้รับผลกระทบเกิดฝนตกหนัก โดยเฉพาะวันที่ 4-5 กันยายน นี้ นอกจากนี้ในห้วงเดือนกันยายน จะมีฝนตกชุกหนาแน่นมากกว่าเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงเป็นระยะๆ และอาจมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้ามาใกล้หรือเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณตอนบนของภาคเหนือได้


ส่วนสถานการณ์น้ำ สำนักงานชลประทานที่ 1 รายงานว่า แนวโน้มของสถานการณ์น้ำทุกสถานีมีแนวโน้มลดลง แต่จะมีเพิ่มขึ้นแค่ 1-2 สถานีเท่านั้น ในพื้นที่ อ.แม่แตง และแม่แจ่ม เนื่องจากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.เชียงดาว เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้มวลน้ำกำลังทยอยไหลเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ แต่ปริมาณไม่มากนัก ส่วนสถานการณ์ที่บริเวณจุดตรวจวัดระดับน้ำ P1 บริเวณสะพานนวรัฐ ยังสามารถรับน้ำได้อีกในปริมาณมาก ทั้งนี้สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่อย่างเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ 88 เปอร์เซ็นต์ และเขื่อนแม่กวงอุดมธารา มีปริมาณอยู่ที่ 53 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้อีกเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม หากในเดือนกันยายน เกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น คือปริมาณฝนมีมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ สำนักงานชลประทานที่ 1 ได้มีแนวทางการระบายน้ำ โดยเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชลจะทำการระบายน้ำผ่านอาคารส่งน้ำฝั่งซ้าย-ขวา ในอัตรา 4 cms/วัน และระบายน้ำผ่านท่อระบายน้ำ (River Outlet) ในอัตรา 24-47 cms/วัน หรือระบายน้ำผ่าน Service Spillway ซึ่งสามารถระบายน้ำได้ 60-100 cms โดยไม่กระทบต่อชุมชนบริเวณลำน้ำแม่งัด ส่วนเขื่อนแม่กวงอุดมธารายังสามารถรองรับน้ำได้อีก 123 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าไม่เกิดผลกระทบหากมีปริมาณฝนในพื้นที่เพิ่มขึ้น


ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เน้นย้ำให้ทุกอำเภอ ทุกหน่วยงานเรื่องกำจัดสิ่งขวางทางน้ำ ขยะ พลาสติก โฟม ใบไม้ สิ่งอุดตันฝาท่อ ตะแกรง ทางระบายน้ำ สะพานทุกแห่งอย่างต่อเนื่อง โดยน้อมนำหลักปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปรับใช้ทำให้น้ำมีที่อยู่และมีที่ไป ทำให้น้ำสามารถไหลได้สะดวกก็จะไม่เกิดน้ำท่วม เป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งหลังจากนี้หากสถานการณ์ฝนเบาบางลง ชลประทานจะดำเนินการพร่องน้ำบางส่วนในเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ให้ระดับน้ำปิงอยู่ที่ 2.40 เมตร เพื่อให้เขื่อนสามารถรองรับน้ำในระยะต่อไปหากเกิดฝนตกหนัก เป็นการเตรียมรองรับน้ำ ดังนั้นขอให้ประชาชนมั่นใจว่าในการทำงานของทุกหน่วยงาน ที่ได้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง










กำลังโหลดความคิดเห็น