ระยอง - ศาลระยองสั่ง "บริษัทวิน โพรเสส" จ่าย 1,743 ล้านบาท ในความผิดฐานเป็นแหล่งก่อกำเนิดของกากสารเคมี ให้กรมควบคุมมลพิษฟื้นฟูสภาพแวดล้อม
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (2 ก.ย.) ศาลจังหวัดระยอง ได้อ่านคำพิพากษาคดีแพ่ง ที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฟ้องบริษัทวิน โพรเสส ในความผิดฐานเป็นแหล่งก่อกำเนิดของกากสารเคมีที่ปนเปื้อนลงแหล่งน้ำสาธารณะและพื้นดิน รวมถึงสภาพแวดล้อมธรรมชาติ ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 96 และ 97 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535
ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษนำผลการตรวจวัดค่าปนเปื้อนของสารเคมีทั้งในและนอกโรงงาน ทั้งบนดินและในน้ำที่ผ่านการตรวจ ประกอบกับพยานบุคคลจากกรมควบคุมมลพิษ และคำสารภาพของจำเลยคือกรรมการบริษัทวิน โพรเสส ที่เคยสารภาพไว้ในคดีอาญา กรณีถูกอุตสาหกรรมจังหวัดระยองฟ้องในความผิดครอบครองวัตถุอันตรายเมื่อปี 2564
ด้วยหลักฐานจากคำสารภาพในคดีอาญาซึ่งคดีดังกล่าวสิ้นสุดแล้วนั้น นำมาประกอบกับหลักฐานการตรวจสอบของกรมควบคุมมลพิษ จึงยื่นฟ้องเอาผิดทางแพ่งเพื่อให้บริษัทรับผิดชอบ เป็นวงเงินต้นกว่า 1,300 ล้านบาท บวกดอกเบี้ยอีกราว 400 ล้านบาท รวมเป็นเงินรวม 1,743,609,923.46 บาท
สำหรับคำพิพากษาดังกล่าวเป็นไปตามคำฟ้องของกรมควบคุมมลพิษ และตลอดจนพิจารณาคดีจำเลยไม่คัดค้านการเรียกร้องและจำนวนค่าเรียกร้องค่าเสียหายแต่อย่างใด จากนี้จำเลยมีเวลา 30 วันในการยื่นอุทธรณ์
ด้าน นายเทียบ แสงมณี ตัวแทนชาวบ้านหนองพวา เปิดเผยว่า ร้สึกพอใจต่อคำพิพากษา ที่เห็นว่าภาครัฐฟ้องเพื่อนำมาสู่การฟื้นฟูสภาพแวดล้อมธรรมชาติ ทำในแหล่งน้ำสาธารณะและที่ดินของราษฎร
อย่างไรก็ตาม ยังเป็นห่วงการกำกับติดตามให้บริษัทดำเนินการตามคำพิพากษาว่าเป็นไปตามได้หรือไม่ เพราะเมื่อ 2 ปีก่อน ชาวบ้าน 20 คนเป็นโจทก์ฟ้องบริษัทวิน โพรเสส ในความผิดทางแพ่ง กรณีปล่อยน้ำเสียปนเปื้อนลงสู่พื้นที่การเกษตร ศาลพิพากษาให้ชาวบ้านชนะ ให้บริษัทวิน โพรเสสชดใช้รายละ 20 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีชาวบ้านรายใดได้รับเงินชดเชย
การคำตัดสินคดีดังกล่าวเป็นคดีแพ่งที่ฟ้องเมื่อปี 2565 เป็นคนละกรณีกับเหตุเพลิงไหม้เมื่อ 22 เมษายนที่ผ่านมา และเป็นคนละกรณีกับกรณีที่นายโอภาส บุญจันทร์ ยังถูกดำเนินคดีกรณีถูกกรมโรงงานอุตสาหกรรมดำเนินคดีฐานปล่อยน้ำเสียมีพิษลงแหล่งน้ำสาธารณะซึ่งเป็นความผิดอาญา