ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ฝนตกต่อเนื่อง กระทบเกษตรกรปลูกผักที่ขอนแก่น ผลผลิตผักลดฮวบ เหตุดินอุ้มน้ำมากทำรากผักเน่า ต้นผักไม่โต ชี้บางรายต้องหยุดทำแปลงผักชั่วคราว ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยดันราคาผักสดปรับขึ้นกว่าเท่าตัว โดยเฉพาะหัวไชเท้า จากกิโลกรัมละ 110 บาท ปรับขึ้นเป็น 220 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วิสาหกิจชุมชน กลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษบ้านหนองหญ้าข้าวนก ต.หนองแวง อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกผักชุมชน เกษตรกรต้องเร่งกำจัดวัชพืชออกจากแปลงผัก หลังได้รับน้ำฝนจำนวนมาก ทำให้วัชพืชโตเร็ว แต่ส่งผลผักที่ปลูกไว้ในแปลงโตช้า เนื่องจากดินอุ้มน้ำมากเกินไป ผักบางชนิดรากเน่า บางสายพันธุ์ไม่ผลิดอกออกใบ ทำให้เกษตรกรบางรายต้องหยุดทำแปลงผักชั่วคราวในช่วงนี้เนื่องจากไม่ประสบผลสำเร็จ ถึงแม้จะได้ราคารับซื้อผักที่สูงขึ้นก็ตาม
นางหนูเดือน มาจุฬา อายุ 67 ปี เจ้าของแปลงผัก กล่าวว่า ตนทำแปลงปลูกผักมานานกว่า 5 ปี ยอมรับว่าช่วงหน้าฝนนี้ปลูกผักได้ทุกชนิดแต่การเจริญเติบโตไม่ได้ตามที่ต้องการ โดยเฉพาะผักกาดหอม, คะน้า, กวางตุ้ง, สลัด, ต้นหอม, กะเพรา, และผักชีลาว เนื่องจากดินอุ้มน้ำ ทำให้ผักโตช้าและรากเน่า เกษตรกรผลิตผักได้ยากกว่าช่วงหน้าหนาวและหน้าร้อน ชาวบ้านบางรายที่ทำแปลงผักจึงหันไปทำในฤดูกาลอื่นแทน
ทำให้ช่วงนี้ต้องขายผักในราคาที่แพงขึ้น จากเดิมผักสลัดขายราคากิโลกรัมละ 20 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 30 บาท, ผักกวางตุ้ง เดิมกิโลกรัมละ 20 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 40 บาท, ต้นหอม จากกิโลกรัมละ 40 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 50 บาท, คะน้า เดิมกิโลกรัมละ 40 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 50 บาท และผักชีลาวจากกิโลกรัมละ 30 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 50 บาท
สาเหตุที่ปรับขึ้นราคาเนื่องจากช่วงนี้ผลผลิตผักน้อยลง แต่ช่วงที่ผักออกมากก็มีการปรับลดราคาผักลงเช่นกัน แต่ก็มีผักบางชนิดที่ชอบน้ำ อย่างเช่นผักบุ้ง จะไม่ได้รับผลกระทบเหมือนผักชนิดอื่นๆ ตอนนี้เกษตรกรรายได้ลดลง แต่ก็ต้องทนทำเพราะเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้ครอบครัว
ทั้งนี้ จากการสำรวจราคาผักตามตลาดสดในเขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่าผักหลายชนิดปรับราคาสูงขึ้น บางชนิดขาดตลาด โดยเฉพาะหัวไชเท้า ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 220 บาท ส่วนผักชนิดอื่นๆ ก็มีราคาปรับสูงขึ้นเกือบเท่าตัว
น.ส.เบญจวรรณ ชอบสุนทร อายุ 49 ปี เจ้าของร้านผักสดแม่พรจิต ตลาดสดเทศบาล 1 ขอนแก่น กล่าวว่า ผักหลายชนิดปรับขึ้นราคา โดยเฉพาะหัวไชเท้าจากเดิมกิโลกรัมละ 120 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 220 บาท, ต้นหอม เดิมกิโลกรัมละ 50 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 110 บาท, ผักกวางตุ้ง จากกิโลกรัมละ 50 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 70 บาท, ผักสลัด จากกิโลกรัมละ 30 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 70 บาท, คะน้า จากกิโลกรัมละ 40 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 60 บาท,
ผักชีลาว จากกิโลกรัมละ 30 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 70 บาท และผักขึ้นฉ่าย จากเดิมขายที่กิโลกรัมละ 70 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 100 บาท ส่วนสาเหตุการปรับขึ้นราคาของผักสด เกิดจากช่วงนี้เป็นหน้าฝน หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วม แปลงผักผลิตผักได้น้อยลง โดยเฉพาะแหล่งปลูกผักรายใหญ่พื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือ ซึ่งเป็นอย่างนี้ทุกปี แตกต่างจากหน้าหนาวและหน้าร้อน ที่มีปริมาณผักมากจนล้นตลาด แต่ไม่ว่าจะผักมากหรือน้อยก็กระทบยอดขายของทางร้านเช่นเดิม เพราะพ่อค้าแม่ค้าก็หันมาจำหน่ายผักมากขึ้นด้วย