ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ เผยทีม USAR ตรวจพบสัญญาณชีพคนงานรายแรกอยู่ใต้ก้อนหินขนาดใหญ่ ลึก 1.8 เมตร ในอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงถล่ม จนท.เร่งเจาะกระแทกทำลายหินขนาดใหญ่ปิดกั้นเส้นทางทั้งคืน เผยอีก 1 เมตรเจาะทะลุชั้นปูนคาดจะพบผู้ประสบภัยตามที่เครื่องสแกนตรวจพบสัญญาณชีพ ยันล่าสุดยังไม่พบตัวผู้ประสบภัยทั้ง 3 คน ในพื้นที่เกิดเหตุ
ความคืบหน้าการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุดินถล่มภายในอุโมงค์ก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน ช่วงสถานีรถไฟ คลองขนานจิตร ริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ช่วงกิโลเมตรที่ 189+435 ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เกิดเหตุเมื่อเวลา23.40 น. วันที่ 24 ส.ค. 67 ที่ผ่านมา โดยจุดดินถล่มห่างจากปากทางเข้าอุโมงค์ก่อสร้างฯประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีผู้สูญหายจำนวน 3 ราย เป็นชาวจีน 2 ราย และ ชาวเมียนมา 1 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานได้ระดมกำลัง อุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องจักร เข้าเร่งค้นหาช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเข้าสู่วันที่ 5 แล้ว ล่าสุดบ่ายวานนี้ชุดปฏิบัติการค้นหาได้ยินเสียงเคาะผนังตอบรับในจุดที่รถดัมป์บรรทุกดินติดอยู่ในอุโมงค์ดินถล่มทับ ซึ่งตรงกับจุดที่พบสัญญาณชีพ แต่ยังไม่เห็นตัวผู้ประสบภัย และเจออุปสรรคมีก้อนหินขนาดใหญ่ปิดกั้นเส้นทางค้นหา เจ้าหน้าที่ต้องเร่งวางแผนดำเนินเจาะทำลายก้อนหินเพื่อเปิดทาง นั้น
ล่าสุดวันนี้ ( 29 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจากทุกหน่วยงานยังคงเร่งดำเนินการค้นหาเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย 3 คน ที่ติดอยู่ภายในอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงถล่มอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนจนถึงเช้าวันนี้ โดยศูนย์บัญชาการเหตุการณ์กรณีอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงถล่ม ซึ่งมี นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ได้รายงานความคืบหน้าในการปฏิบัติการค้นหาผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ภายในอุโมงค์ ระบุว่า สรุปสถานการณ์เมื่อคืนนี้ เวลา 20.00 น. ทีมวิศวกรจีน ได้ดำเนินการสร้างและเสริมความแข็งแรงโครงค้ำยันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำการค้นหาในจุดที่คาดว่าจะมีผู้ประสบภัยติดอยู่ พร้อมลำเลียงหินและดินที่กีดขวางการทำงานของทีมกู้ภัยออกจากพื้นที่ภายในโครงค้ำยัน
ขณะที่ ทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมืองแห่งชาติ (Urban Search and Rescue Team : USAR Thailand) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ทำการสแกนหาสัญญาณชีพและการเคลื่อนไหว โดยตรวจพบสัญญาณชีพที่ความลึกในระยะ 1.8 เมตร ใต้ก้อนหินขนาดใหญ่
เจ้าหน้าที่เริ่มทำการเจาะกระแทกทำลายหินขนาดใหญ่ที่ปิดกั้นเส้นทางการค้นหาในจุดที่คาดว่าจะมีผู้ประสบภัยตามที่เครื่องสแกนตรวจพบสัญญาณชีพใต้ก้อนหิน พร้อมได้ติดเครื่องตรวจจับการทรุดตัว (sensor) บริเวณเพดานอุโมงค์ จำนวน 3 จุด เพื่อสร้างความมั่นใจและปลอดภัยให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน ทางด้านหน่วยแพทย์ ทีมกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เตรียมวางแผนในการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยไปยังโรงพยาบาลไว้เรียบร้อยแล้ว
สรุปสถานการณ์ เวลา 22.00 น. พนักงานชาวจีน ได้ใช้เครื่องเจาะกระแทกดำเนินการเจาะหินในแนวเฉียง ประมาณ 45 องศา เจาะได้ระยะความลึกประมาณ 1 เมตร จากจุดที่คาดว่าจะมีผู้ประสบภัยตามที่เครื่องสแกนตรวจพบสัญญาณชีพใต้ก้อนหิน ในความลึก 1.8 เมตร คงเหลือประมาณ 0.8 เมตร โดยใช้กำลังคนในการขนย้ายเศษหินจากที่แคบและใช้รถขุดตักไฮโดรลิกในการปรับเกลี่ยหินไว้ด้านข้างอุโมงค์ พร้อมเพิ่มการติดเครื่องตรวจจับการทรุดตัว (survey) บริเวณเพดานและผนังอุโมงค์ สำหรับวัดระดับการเคลื่อนตัวของผนังอุโมงค์ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งขณะยังไม่มีสัญญาณการเคลื่อนตัวของผนังโครงสร้างแต่อย่างใด
ล่าสุดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์กรณีอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงถล่ม รายงานงานสรุปสถานการณ์ ณ เวลา 04.00 น. ( 29 ส.ค.) ระบุว่า พนักงานชาวจีน แจ้งวิศวกรชาวไทย เมื่อเวลา 02.00 น.ว่าได้ใช้เครื่องเจาะกระแทกดำเนินการเจาะดิน และหินในแนวเฉียง ประมาณ 45 องศาทะลุหิน พบชั้นปูน (ปูนผสมสารเร่งแข็งตัว ที่ฉีดผิวอุโมงค์ ) ซึ่งมีความหนาประมาณ 1 เมตร จากจุดที่คาดว่าจะมีผู้ประสบภัยตามที่เครื่องสแกนตรวจพบสัญญาณชีพ ในการเจาะทะลุผ่านชั้นคอนกรีต วิศวกรจึงได้ประสานให้ทีม USAR วางแผนการทำงานในการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย เมื่อเจาะทะลุชั้นปูน ณ จุดดังกล่าว ซึ่งล่าสุดยังไม่พบผู้ประสบภัยในพื้นที่เกิดเหตุ