xs
xsm
sm
md
lg

เมียหวังดี! อยากให้ผัวเลิกเหล้า ต้มมะเขือบ้าให้กินแทนน้ำ สุดท้ายต้องหามส่งโรงหมอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มหาสารคาม-เป็นข่าวฮือฮา เมียหวังดีอยากให้ผัวเลิกเหล้า เพื่อนบ้านแนะให้ต้มมะเขือบ้าให้กินแทนนำ ฝ่ายผัวกินตามคำบอกเมีย กินได้ไม่นานเกิดอาการเหนื่อยเพลีย พูดจาไม่รู้เรื่อง เมียรีบโทร 1669 มารับเข้าโรงพยาบาลเป็นการด่วน โชคดีปลอดภัย


เป็นเรื่องเล่าปากต่อปากที่อยากขำแต่ขำไม่ออก กรณีเมียอยากให้ผัวเลิกเหล้า ไปปรึกษาเพื่อน เพื่อนแนะนำให้ต้นมะเขือบ้าให้กิน ความอยากเหล้าเบียร์ก็จะหายไปเอง ฝ่ายเมียไม่รอช้าไปเด็ดมะเขือบ้ามาต้มทันควัน ผัวดื่มไปได้ไม่นานเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน เหนื่อย อ่อนเพลีย พูดจาสับสนไม่รู้เรื่อง หวิดสิ้นชื่อ โชคดีที่นำตัวส่งล้างท้องที่โรงพยาบาลมหาสารคาม

ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่บ้านหนองข่า ต.ท่าตูม อ.เมือง จ.มหาสารคาม บ้านหลังเกิดเหตุ ได้พูดคุยกับ นางบุญล้อม หัสจรรย์ อายุ 52 ปี น้องเมียของผู้ป่วย นางบุญล้อมเล่าว่า ผู้ป่วย คือ นายทองแดง สีพลลา อายุ 62 ปี เป็นพี่เขยของตน เมียของนายทองแดง คือ นางราตรี สีพลลา อายุ 52 ปี ได้นำลูกมะเขือบ้า มาใส่หม้อต้ม ให้สามีกินต่างน้ำ ด้วยความหวังดี หวังว่าจะให้นายทองแดง เลิกเหล้า เพราะนายทองแดงติดเหล้ามานานแล้ว จึงอยากให้เลิก เพื่อนบ้านจึงแนะนำว่า หากอยากให้เลิกเหล้า ก็ให้ต้มลูกมะเขือบ้ากิน ตอนเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์


หลังเกิดเหตุตนได้สอบถามนางราตรี คนเป็นเมีย ซึ่งมีอาการป่วยสโตรก นางราตรี เล่าให้ตนฟังว่า มีเด็กในหมู่บ้านได้ไปเก็บมะเขือบ้ามาจากหมู่บ้านดอนไฮ ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดกัน แล้วมาบอกว่าถ้าอยากให้ผัวเลิกเหล้า ให้ต้มมะเขือบ้ากินต่างน้ำ ด้วยความหวังดีอยากให้ผัวเลิกเหล้า เมียก็เลยต้มให้ผัวกิน โดยเริ่มกินเมื่อวานนี้ช่วงเก้าโมง มามีอาการตอนช่วงบ่ายโมงกว่า ๆ มีอาการปากแข็ง พูดจาไม่รู้เรื่อง มือแข็ง ตัวแข็ง ก็เลยโทรเรียก 1669 มารับตัวไป

ทางหมอที่รักษาก็โทรมาถามเหตุการณ์ว่าไปกินอะไรมา ก็เลยว่ากินมะเขือบ้ามา หมอก็เลยให้เด็ดลูกเข้าไปให้ดูด้วย พอรู้ว่าเป็นผลพิษก็ตกใจ แต่ตอนนี้อาการของพี่เขยก็ดีขึ้นแล้ว อยากฝากบอกว่าลูกมะเขือบ้า ไม่ใช่ของกิน ไม่ต้องไปหามาต้มกิน ถ้าอยากจะเลิกเหล้า ก็ต้องเลิกเอง ของพวกนี้มันทำให้เลิกเหล้าไม่ได้ มีแต่จะตาย

นางสาวสุนิสา ด้วงคำจันทร์ อาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ อบต.ท่าตูม บอกว่า ได้รับแจ้งจากศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 มหาสารคาม ให้ออกรับผู้ป่วยมีอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า ผู้ป่วยมีอาการสับสนมึนงง เหมือนคนเมา ถามตอบพูดจาไม่รู้เรื่อง มือเท้าเกร็ง ผู้ป่วยผุดลุกผุดนั่ง เหมือนไม่รู้ตัว ขอบตาแดง ตัวแดง มีลักษณะคล้ายกับคนมีอาการสโตรก จึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่รีบนำตัวออกมาเปลี่ยนถ่ายกับ ทีม Advance บริเวณปากทางบ้านเอียด ต.เขวา เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาสารคามให้เร็วที่สุด


ต่อมาทราบจากญาติผู้ป่วยว่า ผู้ป่วยได้ดื่มน้ำมะเขือบ้ามาแล้ว 2 วันตั้งแต่วันที่ 25 และมามีอาการวันที่ 26 สิงหาคม โดยญาติได้ต้มน้ำให้กิน 1 หม้อ แต่ไม่ทราบว่าใส่ไปกี่ลูก เพื่อที่จะให้เลิกเหล้า

ลูกมะเขือบ้า จะมีลักษณะคล้ายกับลูกมะเขือเปราะ แต่จะมีตุ่มหนามแต่ไม่คมทั้งผล ซึ่งต้นของเขาก็คือ ต้นลำโพง เป็นต้นไม้ที่ออกดอกสวยงามคล้ายกับลำโพง ก่อนที่ดอกจะร่วงและออกเป็นผล มีลักษณะคล้ายลูกมะเขือที่มีหนาม ซึ่งเป็นพืชที่มีพิษ

ขณะที่เพจ กลุ่มงานเวชศาสตร์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลมหาสารคาม ได้โพสต์ข้อความว่า ระวัง! พิษร้ายจากลูกลำโพงกาสลัก (มะเขือบ้า)




ลูกลำโพงกาสลัก หรือ มะเขือบ้า (Datura metel) เป็นพืชที่มีพิษสูงในกลุ่ม Anticholinergic สารพิษหลักได้แก่ Atropine, Scopolamine, และ Hyoscyamine ซึ่งสามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบประสาทและหัวใจอย่างรุนแรง

อาการพิษที่พบได้ คือ ปากแห้ง คอแห้ง ม่านตาขยาย สู้แสงไม่ได้ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ กระสับกระส่าย สับสน หรือเกิดอาการประสาทหลอน ในกรณีรุนแรงอาจชักหรือหมดสติ

การรักษาเบื้องต้น
1. ห้ามทำให้อาเจียน เพราะอาจเสี่ยงต่อการสูดสำลักสารพิษ
2. พาผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลทันที
3. หากหมดสติและไม่หายใจ ให้ทำ CPR โดยเร็ว
4. ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำเจือจางสารพิษ (หากยังมีสติ)

**ลูกลำโพงกาสลัก (มะเขือบ้า) มีพิษร้ายแรง ห้ามรับประทาน และควรป้องกันเด็กหรือสัตว์เลี้ยงไม่ให้เข้าใกล้ หากได้รับพิษ รีบส่งโรงพยาบาลทันที** ในกรณีฉุกเฉิน โทร 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือทันที ปกป้องชีวิตด้วยความรู้ที่ถูกต้อง! ภาพถ่ายและเนื้อหานี้ถูกจัดทำขึ้นจาก กลุ่มงานเวชศาสตร์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลมหาสารคาม


กำลังโหลดความคิดเห็น