นครพนม- น้ำโขงเพิ่มขึ้น 6 วันติด เข้าขั้นวิกฤต จนแตะระดับ 10 เมตร เริ่มล้นตลิ่ง จากปริมาณฝนที่ตกลงมาต่อเนื่อง ประกอบกับน้ำจากทางภาคเหนือกำลังทะลักไหลสมทบ ทำให้ลำน้ำสาขาเอ่อท่วมนาข้าวแล้วกว่า 20,000 ไร่
วันนี้(25 ส.ค.) ที่จังหวัดนครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า สถานการณ์น้ำโขงยังเพิ่มระดับต่อเนื่อง ล่าสุดแตะระดับประมาณ 10 เมตร ห่างจากจุดล้นตลิ่งแค่ 2 เมตร คือที่ระดับ 12 เมตรเท่านั้น จึงส่งผลกระทบลำน้ำสาขาสายหลัก คือ ลำน้ำก่ำ ลำน้ำบัง ลำน้ำอูน และลำน้ำสงคราม ไม่สามารถไหลระบายทัน โดยลำน้ำอูน ตั้งอยู่ ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
ส่วนลำน้ำสาขาสายอื่น เริ่มประสบปัญหาไหลระบายลงลำน้ำโขงช้า เนื่องจากระดับน้ำโขงเริ่มหนุน บางจุดพบว่าลำน้ำโขง มีระดับสูงกว่าลำน้ำสาขา ทำให้เอ่อล้นท่วมพื้นที่นาข้าวของเกษตรกร ในพื้นที่อำเภอที่อยู่ติดกับลำน้ำสาขา ขณะนี้ได้รับผลกระทบแล้วกว่า 20,000 ไร่ โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ของหน่วยงานเกี่ยวข้อง
ทางด้านประตูระบายน้ำอูน ชลประทานจังหวัดนครพนม ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขังพื้นที่ทางการเกษตร พื้นที่อำเภอศรีสงคราม โดยสถานการณ์ในพื้นที่อำเภอศรีสงครามเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำ รองรับน้ำจากลำน้ำ 2 สายได้แก่ลำน้ำอูน และแม่น้ำสงคราม ไหลมาบรรจบกันที่อำเภอศรีสงคราม ประกอบกับระดับน้ำโขงหนุนสูงทำให้การระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงไหลอย่างเชื่องช้า จึงทำน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรในพื้นที่อำเภอศรีสงคราม และอำเภอนาทม
โดยขณะนี้ พื้นที่อำเภอศรีสงครามได้รับผลกระทบประมาณ 20,000 ไร่ คาดการณ์ว่าจะเสียหายประมาณ 15,000 ไร่ และพื้นที่อำเภอนาทมได้รับผลกระทบประมาณ 10,000 ไร่ คาดการว่าจะเสียหายจำนวนประมาณ 8,000 ไร่ รวมแล้วคาดการณ์ว่าจะเสียหายประมาณ 23,000 ไร่ พื้นที่อำเภอศรีสงครามและอำเภอนาทม พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่โดยเร็ว
ขณะเดียวกันทางด้าน ชลประทานจังหวัดนครพนม ได้เร่งสำรวจประเมินสถานการณ์น้ำในลำน้ำสาขาสายหลัก เช่น ลำน้ำอูนที่ระบายจากเทือกเขาภูพาน จ.สกลนคร ลงสมทบกับลำน้ำสงครามอ.ศรีสงคราม ก่อนลงสู่แม่น้ำโขงที่ปากน้ำไชยบุรี ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
ล่าสุดลำน้ำสาขาต่างๆ เริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำโขงหนุน โดยไหลระบายช้า เตรียมรับมือน้ำเอ่อท่วม รวมถึงจะมีการปิดประตูระบายน้ำที่ไหลลงน้ำโขงทุกจุด เพื่อป้องกันน้ำโขงไหลเข้าท่วมชุมชน กรณีระดับน้ำถึงจุดล้นตลิ่ง
ด้าน นายสันติพันธุ์ พันธุขันธ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครพนม (ผอ.ชป.ฯ) เปิดเผยว่า ปัญหาของการรับมือน้ำท่วม หากน้ำโขงถึงจุดล้นตลิ่งที่ 12 เมตร จะเกิดปัญหาหลักคือมวลน้ำโขงจะหนุนทะลักไหลย้อนเข้าท่วมลำน้ำสาขา และส่งผลกระทบต่อน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มตามมา ทาง ชป.นครพนม ได้เตรียมพร้อมขอสนับสนุนเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จากกรมชลประทาน เพื่อติดตั้งเสริมการระบายน้ำในจุดสำคัญ รวมถึงประตูระบายลงน้ำโขง โดยจะมีการปิดประตูระบายน้ำในระบบชลประทานทุกจุด เพื่อผันน้ำสาขาลงน้ำโขงแทนการเปิดประตูระบายน้ำ
ในกรณีน้ำโขงถึงจุดล้นตลิ่ง ต้องแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงติดชายแดนน้ำโขง เฝ้าระวังวันต่อวัน เนื่องจากมีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน เพราะยังมีมวลน้ำอีกจำนวนมากที่จะไหลมาจากภาคเหนือ ทำให้น้ำโขงเพิ่มต่อเนื่อง
ผอ.ชป.นครพนม กล่าวตอนท้าย ว่า น้ำจากเขื่อนในประเทศจีน ขณะนี้ยังมาไม่ถึง คาดภายในต้นสัปดาห์หน้า มวลน้ำดังกล่าวจะไหลมาสมทบกับน้ำที่เขื่อนในประเทศ สปป.ลาว ปล่อยลงมา เนื่องจากทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้านก็ประสบอุทกภัยฝนตกหนักเช่นเดียวกัน