xs
xsm
sm
md
lg

ชลประทานตั้งเครื่องดันน้ำอิงลงโขงลดน้ำท่วมเชียงราย หลังกว๊านพะเยาล้นฝั่งน้ำหลากท่วมเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เชียงราย – ชลประทานฯตั้งเครื่องดันน้ำอิง 10 เครื่อง หวังผลักดันลงน้ำโขงให้ได้ 41,400 ลบ.ม.ต่อชั่วโมง หลังกว๊านพะเยายังล้นฝั่ง หลากเข้าพื้นที่เชียงรายตามแนวแม่น้ำเพิ่มต่อเนื่อง หลายพื้นที่ยังถูกตัดขาดเส้นทางจนต้องใช้ ฮ.ช่วยส่งอาหาร-น้ำ


วันนี้ (25 ส.ค.) โครงการชลประทานเชียงราย ได้เร่งผลักดันมวลน้ำจำนวนมากจากแม่น้ำอิงซึ่งเอ่อท่วมส่งผลกระทบบางพื้นที่ใน อ.เทิง อ.ขุนตาล อ.พญาเม็งราย และ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ด้วยการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำอิงพื้นที่หมู่บ้านเด่น หมู่ 8 ต.สถาน อ.เชียงของ จำนวน 10 เครื่อง สามารถระบายน้ำได้ประมาณ 690 ลูกบาศกืเมตรต่อนาที และผลักดันมวลน้ำได้ 41,400 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง เพื่อจะให้น้ำที่เข้าท่วมพื้นที่ตอนบนลดลงและระบายลงสู่แม่น้ำโขง เนื่องจากในปัจจุบันน้ำจากกว๊านพะเยา จ.พะเยา ได้ไหลลงสู่แม่น้ำอิงมากขึ้นอีก

นายทวีชัย โค้วตระกูล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงราย กล่าวว่ามวลน้ำในแม่น้ำอิงไหลมาจาก จ.พะเยา และต้องผ่านหลายอำเภอของเชียงราย ต้องเร่งระบายลงแม่น้ำโขงที่ยังหนุนสูง ทางกรมชลประทานจึงได้สนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำถึงจำนวน 10 เครื่อง ใช้พลังงาน 25 kw หวังว่าจะผลักดันน้ำให้ไหลได้เร็วขึ้น

วันเดียวกันสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) จ.ชียงราย ได้ขนของอุปโภคบริโภคจากฝูงบิน 416 กองทัพอากาศ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ปภ.32-01 ของกรม ปภ.เพื่อนำไปนำไปช่วยเหลือชาวบ้านที่หมู่บ้านปางค่า หมู่ 8 ต.ตับเต่า อ.เทิง หลังจากถนน-สะพานเข้าสู่หมู่บ้าน ซึ่งเป็นทางไปภูชี้ฟ้าถูกตัดขาดทำให้การขนส่งทางรถยนต์ไม่สามารถทำได้


ขณะที่หลายพื้นที่ใน อ.เทิง แม้ว่าระดับน้ำจะลดลง แต่หมู่บ้านริมฝั่งยังคงถูกน้ำท่วม ถนนไม่สามารถใช้สัญจรได้และต้องใช้เรือในการเดินทาง เช่น บ้านหนองแรด ต.ปล้อง อ.เทิง ฯลฯ ขณะที่สำนักงานสาธารณสุข อ.เทิง ได้ส่งทีมสหวิชาชีพลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือทางด้านสภาพจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต โดยได้ประเมินผลทางจิตใจผู้ประสบภัยน้ำท่วมจำนวน 30 ราย พบผู้ที่จะต้องได้รับยาและเฝ้าระวังภาวะความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจในระยะยาว จำนวน 11 ราย และพบปัญหาการเจ็บป่วยด้วยโรคผื่นคัน น้ำกัดเท้า แผลจากการเหยียบเศษของมีคมหลายราย

ทั้งนี้วันเดียวกันนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงพาณิชย์ มีกำหนดเดินทางไป อ.เทิง และ อ.เวียงแก่น เป็นวันที่ 2 เพื่อติดตามสถานการณ์ด้วย

ด้านพื้นที่ อ.เวียงแก่น พบว่าแม้น้ำป่าจะแห้งลงแล้ว แต่สร้างความเสียหายกับบ้านเรือนหลายหลัง ถนนไม่สามารถใช้สัญจรได้ เช่น ถนนพื้นที่บ้านอยู่สุข หมู่ 10 ต.ปอ ชาวบ้านต้องใช้เส้นทางเข้าออกหมู่บ้านอ้อมไปในเส้นทางอื่นที่ลาดชันมากกว่าแทน

นายกิตติพงษ์ ยูลึ ผู้ใหญ่บ้านอยู่สุข กล่าวว่ามีบ้านเรือนเสียหายหนักจนถึงขั้นต้องรื้อ 13 หลังคาเรือน บ้านที่ยังมีความเสี่ยง 27 หลังคาเรือน โดยหนึ่งในนั้นเป็นบ้านของตนเองซึ่งถูกน้ำป่าซัดช่วงกลางดึกคืนวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา.


กำลังโหลดความคิดเห็น