อุทัยธานี – หนุ่มทัพทัน อุทัยธานี สุดแค้นใจ..เลี้ยงควายมาแต่เล็กแต่น้อย โดนมือมืดแอบวางยาเบื่อควายหวิดตายยกคอก 43 ตัว โชคดีแม่เห็นฟูราดานไม่ทันละลายอยู่ก้นอ่างน้ำ รีบเททิ้ง ก่อนตัดสินใจขายควายทั้งฝูงแบบขาดทุน จากปกติต้องได้กว่าล้านบาทขึ้น
เกษตรกรหนุ่มทัพทัน จ.อุทัยธานี รายหนึ่ง ซึ่งประกอบอาชีพเลี้ยงควาย ได้โพสต์ภาพควายที่เลี้ยงไว้ถูกวางยาในอ่างน้ำที่เจ้าตัวใส่น้ำไว้ให้ควายกิน จนควายตายยกคอก พร้อมข้อความสุดสะเทือนใจ ว่า..เป็นการสูญเสียที่ใหญ่ที่สุดสำหรับครอบครัวผม ผมเกิดมากับควายโตมากับควาย จิตใจมึงทำด้วยอะไรทำไมมึงถึงโหดเหี้ยมอำมหิตขนาดนี้ ถ้ามึงเกลียดพวกกูมึงทำใมไม่ทำกับพวกกู มึงเอายาไปใส่ให้ควายกินทำใม มึงมันไม่ใช่คนแล้ว มึงมันยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานอีก ถ้าเวรกรรมมีจริงกับ 43 ชีวิต ที่มึงทำ#ขอให้ครอบครัวมึงและตัวมึงร้อนรนทุรนทุรายเหมือนกับที่มึงทำกับควายภายใน 7 วัน 8 วันด้วยเทอญสาธุ"
หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปแล้วนั้น พบว่ามีทั้งกลุ่มเพื่อน และผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้ามาคอมเมนท์ให้กำลังใจกันจำนวนมาก
ล่าสุดวันนี้(25 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายปฏิญญา กอบธัญกรณ์ อายุ 30 ปี ชาวบ้านสวนขวัญ พื้นที่หมู่ 13 ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ซึ่งเป็นเจ้าของควายและเป็นผู้โพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งได้พาเดินเข้าไปดูคอกควายของตัวเองพร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ใช้พื้นที่ของลูกพี่ลูกน้อง ประมาณ 9 ไร่ ทำคอกเลี้ยงควายไว้ 43 ตัว
เหตุการณ์ควายถูกวางยาตายยกคอก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 16.00 น. ซึ่งวันนั้นตนและครอบครัวไปร่วมงานศพที่วัดกันหมด มีเพียงแม่อยู่บ้าน และเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งวันนั้นแม่เป็นคนมาเปลี่ยนน้ำในอ่างให้ควายกิน จนมาเห็นว่ามีเม็ดยาฟูราดาน (ยาฆ่าแมลง) อยู่ก้นอ่างน้ำ 3 อ่าง
ด้วยความตกใจแม่ก็รีบเทน้ำออกหมดเพราะกลัวควายจะไปกินเพิ่ม พอกลับมาก็เห็นว่า มีควายอยู่หลายตัวที่มีอาการซึม น้ำลายยืด จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ตลุกดู่ ก่อนตัดสินใจกับครอบครัว ประกาศขายควายออกทั้งคอก เพราะกังวลว่าจะถูกวางยาซ้ำจนควายต้องตายทั้งหมด ซึ่งหลังจากที่ประกาศขายไปก็มีพ่อค้าควายมาติดต่อซื้อไปยกคอก ในราคา 650,000 บาท ซึ่งจากปกติแล้วมูลค่าควายทั้งคอกนั้นมากกว่า 1 ล้านบาท แต่ต้องยอมตัดใจขาย เพราะหากโดนวางยาซ้ำอีกก็จะถึงขั้นหมดตัว
ทั้งนี้ อยากฝากถึงคนที่วางควายของตนเองในครั้งนี้ด้วยว่า ขอให้เจอเหมือนกับที่ทำกับควาย ซึ่งตนสงสารควายมาก โดยเฉพาะแม่ ที่ตอนนี้สภาพจิตใจแย่มาก ซึมเศร้าลงและไม่ค่อยพูด เพราะความผูกพันที่ทำอาชีพเลี้ยงควายกันมานานกว่า 10 ปี
“ควายคอกนี้มีทั้งลูกควาย พ่อควาย แม่ควายที่กำลังตั้งท้องอยู่หลายสิบแม่ด้วย ไม่คิดว่าจะมีคนจิตใจโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้ ส่วนตัวก็พอคาดเดาได้ว่าใครเป็นคนทำ แต่ด้วยไม่มีหลักฐานจึงทำอะไรไม่ได้ หากเป็นไปได้ก็อยากให้ทางตำรวจช่วยหาทางติดตามดำเนินคดีให้ด้วยเช่นกัน” นายปฏิญญา กล่าว
