เชียงราย – น้ำโขงลุ่มสามเหลี่ยมทองคำ ยังหนุนสูง-น้ำอิงเอ่อท่วมเชียงราย แม้ลดระดับลงแต่ระบายลงโขงช้า..ขณะที่ “ภูมิธรรม-อนุทิน” นำคณะลงพื้นที่ซับน้ำตาผู้ประสพภัย
วันนี้ (24 ส.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงพาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รักษาการ รมว.กระทรวงมหาดไทย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.เทิง จ.เชียงราย พร้อมมอบของใช้จำเป็นให้ประชาชนที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อ.เทิง ก่อนมีการสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงคมนาคมให้ซ่อมแซมถนนที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมหนักเมื่อวันที่ 21-22 ส.ค.ที่ผ่านมา
นายภูมิธรรม กล่าวว่าคณะรัฐบาลเป็นห่วงเพราะน้ำหลากครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ตามรายงานมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย และสูญหายอีกบางส่วน ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังคงติดขัดเรื่องข้อกฎหมายที่ยังปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้จึงแจ้งให้ทางรัฐมนตรีได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ สำหรับสถานการณ์พบว่าระดับน้ำเริ่มลดลงและไหลลงสู่แม่น้ำโขง แต่เนื่องจากน้ำในแม่น้ำโขงก็มีมากทำให้ต้องค่อยๆ ระบาย ส่วนภาพรวมนั้นตนได้แจ้งให้ รมว.กระทรวงมหาดไทย ให้ทุกภาคส่วนตั้งศูนย์ดูแลเหตุการณ์ และระดมเครื่องไม้เครื่องมือรองรับที่กรุงเทพฯ ไว้แล้ว
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่าพื้นที่ จ.เชียงราย ทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ก็ระดมกำลังกันอย่างเต็มที่ รวมทั้งมีฝ่ายทหาร เอกชน ฯลฯ เข้าไปช่วยเหลือ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ตนได้พาปลัดกระทรวงเดินทางมาด้วยเพื่อดูแลเรื่องเครื่องอุปโภคบริโภคซึ่งได้รับทราบว่าข้าวสารและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังขาดแคลน
อย่างไรก็ตาม หลังน้ำท่วมเริ่มลด ก็ฝากกับทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดให้สรุปเป็นบทเรียนเพราะฤดูฝนยังไม่หมดและอาจเกิดขึ้นได้อีก และเป็นเรื่องน่าห่วงหากมีฝนตกลงมาเพิ่มเติมตลอดลุ่มแม่น้ำอิง ทั้งนี้วันที่ 25 ส.ค.ตนก็จะลงพื้นที่อีกครั้งเพราะทราบว่ายังขาดแคลนถุงยังชีพ และแม้จะไม่มีการประชุมคณะรัฐมนตรีแต่ยกหูโทรศัพท์คุยกันเพื่อแก้ไขปัญหาตลอด
ด้านนายอนุทิน กล่าวว่าคาดหวังว่าจะไม่มีมวลน้ำเพิ่มเติม และสิ่งที่ดำเนินการขณะนี้คือการช่วยเหลือเป็นจุดๆ ไม่ถึงขั้นต้องอพยพทั้งหมดหมู่บ้าน มอบเครื่องอุปโภคบริโภค นำดินหินออกจากถนน ฯลฯ
สำหรับสถานการณ์แม่น้ำอิงที่ไหลท่วม อ.เทิง อ.ขุนตาล อ.พญาเม็งราย ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ยังคงสร้างผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่แม่น้ำโขงชายแดนไทย-สปป.ลาว ซึ่งเป็นปลายทางของแม่น้ำอิงกลับมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนเข้าท่วมท่าเรือเล็กบ้านผาถ่าน ต.เวียง อ.เชียงของ ชาวบ้านต้องผูกเรือเอาไว้ให้แน่นหนาเพราะน้ำไหลเชี่ยวและมีวัชพืชเศษไม้ลอยมาด้วย
ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของแม่น้ำโขงทำให้การระบายน้ำจากแม่น้ำอิงเป็นไปด้วยความล่าช้า ทำให้น้ำยังคงท่วมพื้นที่ลุ่มติดแม่น้ำอิงโดยเฉพาะหมู่บ้านป่าข่า ต.ป่าตาล อ.ขุนตาล ที่ระดับน้ำบางจุดลึกกว่า 1 เมตร