แพร่ – น้ำใจไทย-เครือข่ายกู้ภัย-จิตอาสา ทั่วประเทศหลั่งไหลช่วยเหยื่อน้ำท่วมแพร่..หลังน้ำยมขึ้นสูงสุดไปถึง 11.50 เมตร จนล้นฝั่งท่วมทั้งเมือง แม้เช้านี้(24 ส.ค.)วัดได้ 10.80 ม.-แนวโน้มลดชั่วโมงละ 1 ซม. แต่ยังมีคนติดอยู่ในบ้านต้องอดข้าวอดน้ำข้ามวันข้ามคืน
วันนี้(24 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าวิกฤตน้ำยมล้นฝั่งท่วมเมืองแพร่ ว่าระดับน้ำในแม่น้ำยม ที่เคยขึ้นไปสูงสุดที่ 11.50 เมตร และล้นตลิ่งท่วมเมืองแพร่นั้น ล่าสุด ณ เวลา 06.00 น.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 10.80 เมตร และมีแนวโน้มลดลงชั่วโมงละ 1 เซนติเมตร
อย่างไรก็ตามระดับน้ำยังสูงวิกฤตอยู่ และมวลน้ำกำลังเคลื่อนสู่อำเภอเด่นชัย อำเภอลอง อำเภอวังชิ้น จนกลายเป็นพื้นที่วิกฤตต่อไป หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องขอความร่วมมือจากอาสาสมัครที่มีความเชี่ยวชาญในการกู้ภัยช่วยเหลือผู้ป่วยค้นหาผู้ไม่ได้รับความช่วยเหลือตามตรอกซอกซอยที่ถูกน้ำท่วมสูงอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยมีอาสาสมัครกู้ภัยจากจังหวัดต่างๆหลั่งไหลเข้ามาอย่างจังหวัดแพร่เพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น
ทั้งนี้จังหวัดแพร่มีการเตรียมการป้องกัน แต่ก็ยังขาดอุปกรณ์เครื่องมือยานพาหนะที่สามารถฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวแรงได้ จนทำให้ประชาชนที่ติดอยู่ตามบ้านเรือนอดข้าวอดน้ำติดต่อกันในหลายพื้นที่ที่หน่วยกู้ภัยและกำลังทหารเข้าไม่ถึง ตั้งแต่วันที่ 23-24 สิงหาคม
อย่างไรก็ตาม กระแสความช่วยเหลือที่มาจากทั่วทุกสารทิศส่งกำลังคน และเครื่องมือโดยเฉพาะรถยนต์ 6 ล้อ ออฟโรดยกสูง เรือติดเครื่องยนต์และกำลังอาสาสมัครที่มาจากจังหวัดต่างๆมูลนิธิต่างๆระดมเข้ามาช่วยเหลือรวมทั้งน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกันส่งเสบียงข้าวปลาอาหารเข้ามาช่วยเหลืออย่างประทับใจ
นางอัมราพร มุ้งทอง ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ในนามเหล่ากาชาดจังหวัดแพร่มาเป็นตัวแทนรับบริจาคสิ่งของที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์น้ำท่วมจังหวัดแพร่ ตั้งอยู่ที่ ลานวัฒนธรรมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณชาวไทยทั่วประเทศที่ให้ความสำคัญกับเหตุการณ์วิกฤตจากน้ำท่วมจังหวัดแพร่ ส่งสิ่งของอาหารและน้ำดื่มเข้ามาอย่างต่อเนื่องในนามคนแพร่ต้องขอขอบคุณทุกน้ำใจที่ส่งเข้ามา
นายโชคชัย พนมขวัญ นายกเทศมนตรีเมืองแพร่ กล่าวว่า นำท่วมครั้งนี้หนักมาก การกู้ภัยเป็นไปได้ยากเนื่องจากน้ำมามาก ท่วมสูงไหลแรง การกู้ภัยแบบปกติไม่สามารถดำเนินการได้ ต้องขอขอบคุณองค์กร มูลนิธิ หน่วยงานต่างๆหน่วยทหารที่นำเรือรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการฝ่าน้ำแรงมาช่วยดูแลประชาชนที่ติดอยู่ตามบ้านเรือนในเขตริมแม่น้ำยม ทำให้วิกฤตบรรเทาไปได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ยังเข้าไม่ถึงผู้ประสบภัยอยู่ ซึ่งวันนี้(24 ส.ค.)ระดับน้ำน่าจะส่งตัวหรือลดลงจะทำให้การทำงานกู้ภัยมีประสิทธิภาพขึ้น