เชียงใหม่ – ทั้งครู-ผู้ปกครอง-เด็กนักเรียน รวมตัวชูป้าย-ยื่นหนังสือผ่าน นอภ.สะเมิง จี้ย้าย ผอ.โรงเรียน อ้างลูกป่วยสมาธิสั้น ย้ายมาเรียนไม่พอ ปล่อยทำร้าย-แกล้ง จนเด็กคนอื่นไม่อยากมาเรียน ดุด่าผู้ใต้บังคับบัญชา ทำให้ครูเครียดฆ่าตัวตาย 1-ป่วยซึมเศร้า 2
วันนี้(23 ส.ค.) ผู้ปกครอง และกรรมการสถานศึกษา พร้อมด้วยเด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.สะเมิง ได้รวมตัวถือป้ายประท้วงขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียน ก่อนส่งตัวแทนเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมให้กับนายวิโรจน์ ดวงสุวรรณ์ นายอำเภอสะเมิง เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานต้นสังกัดย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าว ออกจากพื้นที่ภายในวันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ ไม่อย่างนั้นจะไม่ยอมให้บุตรหลานไปโรงเรียน
โดยในหนังสือทางกลุ่มผู้ปกครองและกรรมการสถานศึกษาได้ระบุว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าวถูกขับไล่จากคณะครูและชุมชนแห่งหนึ่ง ต.บ่อแก้ว อ.สะเมิง เมื่อย้ายมาอยู่โรงเรียนแห่งนี้ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ในการบริหารสถานศึกษา ทำให้นักเรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา และชุมชนได้รับผลกระทบจากการบริหารงาน ขาดหลักจริยธรรม คุณธรรมในการบริหารงานโรงเรียน
ปัญหาดังกล่าวที่สะสมมานานนับ 6 ปี ทางคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ชุมชนตลอดจนหน่วยงานราชการอื่นๆ จึงมีความเห็นว่าขอนายอำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าวออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาต่างๆ หากไม่ดำเนินการใดๆ ทางผู้ปกครองอาจจะตัดสินใจย้ายเด็กๆไปเรียนที่โรงเรียนอื่นแทน
และขอทางราชการแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีความรู้ ความสามารถ มีคุณธรรมมาทดแทนตำแหน่งเดิม เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริหารท่านอื่นที่มีความสามารถพัฒนาโรงเรียนโรงเรียนอย่างเต็มศักยภาพ และให้โอกาสครูผู้สอนได้ทำงานเพื่อพัฒนานักเรียนอย่างเต็มกำลังความสามารถ ก่อเกิดความผาสุกในรั้วโรงเรียนต่อไป
ขณะที่นางเอ (นามสมมุติ) ผู้ปกครองเด็กนักเรียนชายชั้น ป.4 เพื่อนร่วมชั้นลูกชาย ผอ.โรงเรียน กล่าวว่า ลูกตนเป็นเด็กสมาธิสั้นอยู่แล้ว ต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการดูแลมากกว่าเด็กทั่วไป ยิ่งมาถูกลูกชาย ผอ.ทำร้ายอีก ทำให้ลูกเกิดอาการเครียดเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง ทางบ้านต้องให้พี่ช่วยสอนเสริมให้
“บ่อยครั้งที่ลูกถูกลูกชาย ผอ.โรงเรียนแกล้ง ทำร้าย ทั้งรัดคอ บีบคอ โดนกระชาก-ใช้มีดเสื้อผ้าที่สวมไปโรงเรียนจนขาด และตามตัวจะมีรอยฟกช้ำกลับมาบ้านทุกวัน นอกจากนี้สมุดดินสอ อุปกรณ์การเรียนจะหายบ่อยครั้ง ใบงานฉีกขาด เนื่องจากลูก ผอ.โรงเรียนทำร้าย”
เมื่อสอบถามไปในกลุ่มไลน์ ทาง ผอ.ก็จะส่งสติ๊กเกอร์กราบขอโทษเท่านั้นและมักอ้างว่าลูกชายเป็นเด็กสมาธิสั้นและขาดความอบอุ่น แต่หลังจากนั้นพฤติกรรมของลูกชายยังคงเป็นเหมือนเดิม นอกจากนี้ลูกของ ผอ.ยังมีพฤติกรรมชอบแกล้งเด็กนักเรียนคนอื่น พอเด็กคนที่ถูกแกล้งไปฟ้อง ผอ.ก็จะถูก ผอ.ตะคอกดุด่า
“สิ่งที่ตนรับไม่ได้คือลูกถูกทำร้ายทุกวัน การที่ส่งลูกไปโรงเรียนทุกวันน่าจะได้เรียนหนังสือ แต่กลายเป็นสถานที่ ที่ไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก มีการทำร้ายกัน ทำให้เด็กไม่มีสมาธิในการเรียน ครูผู้สอนก็ไม่มีสมาธิในการสอน เพราะต้องดูแลลูกของ ผอ.ไม่ให้ก่อเรื่องแกล้งเพื่อนในห้องเรียน”
ส่วนนางบี (นามสมมุติ) ผู้ปกครองนักเรียน กล่าวเสริมว่า พฤติกรรมของ ผ.โรงเรียนมักใช้อำนาจบาตรใหญ่ กับผู้ใต้บังคับบัญชา และใช้วาจาที่ไม่เหมาะสม ใพอใจอะไรชักสีหน้าใส่ผู้ใต้บังคับบัญชาทำให้เกิดภาวะอารมณ์การทำงานที่เครียด ปัจจุบันมีครูทำเรื่องขอย้ายไป 3 คน ใกล้เกษียณอายุราชการ 2 คน และมีบางส่วนทำท่าจะขอย้าย จะเหลือครูเพียง 1 คน
หากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้อาจะส่งผลกระกับการเรียนของเด็กนักเรียนจนต้องไม่เอาบุตรหลานไปโรงเรียนและย้ายไปเรียนที่อื่น ซึ่งหากไม่มีการดำเนินการใดๆ กับ ผอ.คนดังกล่าวเนื่องจากเกรงว่าหลังจากที่ชาวบ้านยื่นหนังสือกับนายอำเภอสะเมิงแล้วสถานการณ์จะเลวร้ายขึ้นมากกว่าเดิม
เนื่องจากก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ปี มีเหตุการณ์เศร้าสลดครูผู้ชายโรงเรียนนี้ได้ทำการได้ทำการฆ่าตัวตายที่บ้านพักเพราะเครียดจากการทำงาน นอกจากนี้ยังมีคุณครูอีก 2 คนประสบปัญหาป่วยเป็นโรคซึมเศร้าต้องเข้ารับการรักษาเนื่องจากผอ.โรงเรียนใช้อารมณ์สั่งงาน และใช้อำนาจข่มขู่ผู้ใต้บังคับบัญชา บางครั้งวันหยุดหาก ผอ.พาลูกมาทำงานที่โรงเรียนก็จะสั่งให้คุณครูในโรงเรียนดูแลลูกชานของตนเองบางครั้งลุกชาย ผอ.เล่นซนจนเกิดอุบัติเหตุคุณครูที่ดูแลต้องรับผิดชอบอีก
และหลังจากยื่นหนังสือผ่านท่านนายอำเภอไปยังหน่วยงานต้นสังกัดแล้วหากวันจันทร์ยังไม่มีการดำเนินการย้าย ผอ.คนดังกล่าวทางชาวบ้านก็จะไม่พาลูกมาโรงเรียนดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่าหาก ผอ.ทราบเรื่องราวที่ชาวบ้านยื่นหนังสือจะทำให้เด็กนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนได้รับความเดือดร้อน
ครูผู้หญิง คนหนึ่งในโรงเรียน ให้ข้อมูลว่า ผอ.โรงเรียนมีพฤติกรรมมีที่ไม่เหมาะสมบ่อยครั้งจะชี้หน้าด่าผู้ใต้บังคับบังคับต่อหน้า ชาวบ้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งต่อหน้าเด็กนักเรียน ซึ่งตนเองเคยโดนกับตัวถูก ผอ.ชี้หน้าด่าหน้าแถวต่อหน้าเด็กนักเรียนขณะนั้นตนกำลังจัดแถวให้เด็กนักเรียนที่กำลังจะเดินทางไปสอบอีกโรงเรียนหนึ่ง ซึ่งพฤติกรรมที่ตนทนไม่ได้ก็คืออารมณ์รุ่นแรงของ ผอ.ทั้งตะคอกใส่ โดนกันทุกคน และตนกำลังทำเรื่องขอย้ายโรงเรียนเนื่องจากทนพฤติกรรมแบบนี้ไม่ไหว ทำให้ไม่มีอารมรณ์ในการทำงานไม่รู้ว่าไปโรงเรียนจะโดนอะไรอีกจนส่งผลกระทบทำให้ไม่มีสมาธิสอนหนังสือเด็กนักเรียน
ในส่วนพฤติกรรมของลูกชาย ผอ.ซึ่งตนได้มีโอกาสสอนหนังสือ ทุกครั้งที่อยู่ในห้องเรียนจะชอบแกล้งเพื่อน ผลักเพื่อนล้ม ล่าสุดแอบดูใต้กระโปร่งเด็กนักเรียนหญิง ซึ่งพฤติกรรมของลูกชาย ผอ.ส่งผลต่อสมาธิเพื่อนร่วมชั้นจนกระทบกับผลการเรียนของนักเรียนคนอื่นในชั้นเรียนอีกด้วย
ด้านนายวิโรจน์ ดวงสุวรรณ์ นายอำเภอสะเมิง เปิดเผยหลังจากรับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับจากชาวบ้าน ว่า เบื้องต้นจะได้ประมวลข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อถือได้ จากนั้นก็จะได้มีความเห็นในฐานะที่เป็นนายอำเภอไปยังหน่วยงานต้นสังกัดของผู้ที่ถูกร้องฯ ส่วนการพิจารณาดำเนินการอย่างไรนั้น จะเป็นเรื่องของหน่วยงานต้นสังกัด
“อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ขอความร่วมมือให้ผู้ปกครองช่วยดูแลลูกหลาน ขอให้ใจเย็นๆ รอให้หน่วยงานต้นสังกัดพิจารณารายละเอียดต่างๆให้รัดกุม อย่าเพิ่งพาลูกหลานลาออก”