สกลนคร - อีกแล้ว คราวนี้เป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสกลนครถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป่าหูให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าค้ายาเสพติดหรือฟอกเงินหรือไม่ หลงเชื่อขอเงินพ่อแม่มาโอนให้มิจฉาชีพ 5 บัญชีรวมเป็นเงิน 271,042 บาท ซ้ำให้หลอกผู้ปกครองต่อว่าถูกลักพาตัวต้องโอนเงิน 1 ล้านแลกปล่อยตัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ส.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร พ.ต.อ.วรวิทย์ นนพละ ผกก.สืบสวน ภ.จว.สกลนคร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 67 เวลา 15.00 น. พล.ต.ต.สมจิตร เหล่ามงคลนิมิต ผบก.ภ.จว.สกลนคร ได้สั่งการในเหตุ นศ.ชาย ปี 1 อายุ 19 ปี ของ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเขต ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร ได้หายตัวไปจากที่พักไม่สามารถติดต่อได้ โดยผู้ปกครอง ซึ่งอยู่ จ.ปราจีนบุรี ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ขมิ้น เกรงจะได้รับอันตราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบลงพื้นที่ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบนักศึกษารายนี้ขี่จักรยานออกจากที่พักไปเองโดยไม่มีการถูกลักพาตัวไปแต่อย่างใด จึงตรวจสอบที่พักและเก็บหลักฐานต่างๆ จนทราบว่าตัว นักศึกษาได้ออกจากที่พักไปเอง ต่อมาเรียกรถแท็กซี่ไปส่งที่โรงแรมหนึ่งในเขตเทศบาลนครสกลนครเมื่อคืนวานนี้ (20 ส.ค. 67) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบพบนักศึกษารายนี้อยู่ห้องพักเพียงคนเดียว โดยไม่มีบุคคลอื่นหรือถูกลักพาตัวแต่อย่างใด
พ.ต.อ.วรวิทย์ นนพละ ผกก.สืบสวน ภ.จว.สกลนคร กล่าวอีกว่า สาเหตุที่นักศึกษาได้หายจากห้องพักไปจนเป็นเรื่องเป็นราว สอบสวนทราบว่า วันที่ 18 ส.ค. 67 เขาถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทร หา อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สาย กล่าวหาว่านักศึกษาชายรายนี้นำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคารเกี่ยวข้องยาเสพติดและฟอกเงิน ด้วยความที่กลัวและถูกขู่ห้ามบอกใคร และถูกให้โอนเงินไปตรวจสอบเส้นทางการเงิน ตอนแรกนักศึกษาไม่มีเงิน จึงได้โทร.ไปบอกผู้ปกครองว่ามีเหตุจำเป็นใช้เงินในการซื้ออุปกรณ์การเรียน
จากนั้นผู้ปกครองโอนเงินให้ เมื่อได้เงินจากผู้ปกครองก็โอนให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จำนวน 5 บัญชี 5 ครั้ง รวม 271,042 บาท ต่อมาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังได้ออกอุบายบังคับให้นักศึกษาไปเปิดห้องพักแล้วถ่ายคลิปตนเองส่งให้ผู้ปกครอง บอกว่าถูกลักพาตัวต้องโอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ 1 ล้านบาทเพื่อแลกกับการปล่อยตัว เรื่องแดงเพราะผู้ปกครองคิดว่าลูกจะได้รับอันตราย จึงเดินทางมาที่ จ.สกลนคร เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือ จนสามารถช่วยเหลือได้สำเร็จในคืนวันที่ 20 ส.ค. 67 และทราบข้อเท็จจริงว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ออกอุบายหลอกลวงให้ทำทั้งหมด
จากนั้นจึงพาตัวนักศึกษารายนี้มายังกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร เพื่อทำการซักถามโดยมีผู้ปกครองและคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยร่วมรับฟังการสอบปากคำ
ส่วนแนวทางในการสืบสวนจะได้ดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มคนร้ายที่ใช้ในการกระทำความผิดต่อไป พร้อมกับฝากเตือนประชาชนทุกคนตอนนี้กลลวงอุบายของแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีทุกรูปแบบ ถ้าเจอลักษณะนี้ให้บอกคนใกล้ชิดหรือผู้ปกครองทันทีอย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด
