ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แม่ทัพภาคที่ 2 ไทยร่วมผู้นำทหารกัมพูชาประชุม “RBC” ไทย-กัมพูชา ประจำปี 2567 ที่ เสียมราฐ กัมพูชา จับมือแก้ปัญหากวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สร้างความสงบเรียบร้อยพื้นที่ชายแดนและความสงบสุขประชาชนทั้งสองประเทศ
วันนี้ (21 ส.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้จัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee - RBC) ไทย-กัมพูชา ด้านกองทัพภาคที่ 2 และภูมิภาคทหารที่ 4 ครั้งที่ 25 ประจำปี 2567 เมื่อวานนี้ (20 สิงหาคม 2567) ที่โรงแรมอังกอร์เซ็นจูรี่ รีสอร์ทแอนด์สปา จังหวัดเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมี พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เป็นประธานฝ่ายไทย และ พล.อ.โปว เฮง รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 เป็นประธานฝ่ายกัมพูชา ทั้งนี้ เพื่อทบทวนความก้าวหน้าของความร่วมมือด้านต่างๆ เกี่ยวกับความมั่นคงชายแดน, การแก้ไขปัญหาชายแดนไทย- กัมพูชา และการปฏิบัติด้านอื่นๆ ภายใต้กรอบความร่วมมือของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา
พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา ด้านกองทัพภาคที่ 2 และภูมิภาคทหารที่ 4 นับว่าเป็นกลไกที่สำคัญในระดับภูมิภาคที่ให้กองทัพและหน่วยงานด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศมีการประสานงานและร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนอย่างสันติวิธี บนพื้นฐานของความเท่าเทียมและความเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งในห้วงที่ผ่านมากองทัพภาคที่ 2 และภูมิภาคทหารที่ 4 ได้ดำรงการปฏิบัติงานตามผลการประชุมฯ ครั้งที่ 24 อย่างต่อเนื่อง เช่น การพบปะพัฒนาความสัมพันธ์ในทุกระดับ การลาดตระเวน โดยมีการประสานการดำเนินโครงการหมู่บ้านเข้มแข็ง และการส่งเสริมการค้าชายแดน เป็นต้น
พล.ท.อดุลย์กล่าวอีกว่า ต้องขอขอบคุณสำหรับความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งทำให้สามารถช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกได้อย่างปลอดภัย นำมาซึ่งความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ และเชื่อมั่นว่าการประชุมในครั้งนี้จะเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันเพิ่มความร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาที่ยังปรากฏอยู่ในบริเวณชายแดน โดยเฉพาะการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการรักษาความสงบเรียบร้อย รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่ชายแดน ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันบนพื้นฐานแห่งความเข้าใจและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ด้านความมั่นคงและความสงบสุขของประชาชนทั้งสองประเทศต่อไป
