“เซน” มือยิงจ่าทหารคาผับเถื่อนกลางเมืองหัวหิน เผยสำนึกผิดอยากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต

ประจวบคีรีขันธ์ - พนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน รวบรวมพยานหลักฐานนำตัวผู้ต้องหาที่ยิงจ่าทหาร ค่ายธนะรัชต์ เสียชีวิตในผับเถื่อนกลางเมืองหัวหิน ส่งศาลจังหวัดหัวหินวันนี้ ขณะที่ผู้ต้องหากล่าวว่าสำนึกผิดอยากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต

จากกรณีเมื่อวันที่ 18 ส.ค. เวลาประมาณ 04.00 น.ที่ผ่านมา สถานีตำรวจภูธรหัวหินได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีเหตุใช้อาวุธปืนยิง มีผู้เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ภายในร้านแห่งหนึ่งในซอยหัวหิน 80 ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุคือ จ.ส.อ.โรจนภณ โรจน์พานิช อายุ 31 ปี นายสิบการข่าวกรมนักเรียน โรงเรียนทหารราบ ศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด ลำตัวอีก 2 นัด

โดยผู้ก่อเหตุคือ นายจักรกฤษ วงวงศ์พาณิชกุล หรือเซน อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1365/376 ถ.สามพระยา ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี มีตำแหน่งเป็นคณะที่ปรึกษาของ กต.ตร. สถานีตำรวจภูธรหัวหิน เป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว โดยนายเซน ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงทำให้ จ.ส.อ.โรจชนะภณ โรจน์ชนะภานิช เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บ 3 ราย สาหัส 1 รายนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล

ล่าสุด วันนี้ (19 ส.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรหัวหิน นายเซน อดีตคณะกรรมการที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.หัวหิน ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ และ พ.ต.ท.วรท กรุงกาญจนา รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สภ.หัวหิน รักษาราชการแทน ผกก.สภ.หัวหิน ได้มีหนังสือคำสั่งให้ปลดออกจากตำแหน่งที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.หัวหิน ตั้งแต่เย็นวานนี้เป็นต้นไป

โดยมีนายวรพจน์ ลิมาคม ประธาน กต.ตร.สภ.หัวหิน ได้เดินทางมาที่ สภ.หัวหิน และดำเนินการนำรูปถ่ายของนายเซน ออกจากบอร์ด และกล่าวว่า นายเซน ได้เข้ามาเป็นที่ปรึกษา 1 ปี และประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว และใบกรอกประวัติซึ่งคณะกรรมการดูแล้วไม่มีอะไรเสื่อมเสียแต่อย่างใด แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ต้องทำตามกฎระเบียบ

โดยพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ได้ทำการสอบปากคำทั้งผู้ลงมือยิง และพยาน ผู้บาดเจ็บ และรวบรวมพยาน กระทั่งเมื่อเวลา 10.00 น.ของวันนี้ โดยนายเซน สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น ซึ่งตำรวจได้ควบคุมตัวออกมา ซึ่งมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด ตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า ในเรื่องของคดีให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนตัวอยากขอโทษทางครอบครัวผู้เสียชีวิต ก่อนเจ้าหน้าที่นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดหัวหิน

จากการสอบสวนของพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน โดยนายเซน รับว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริงเนื่องจากมีเหตุกระทบกระทั่งกับผู้ตายในสถานที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสอนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่าได้กระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุอันควร โดยผู้ต้องหายอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งในคดีนี้พนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงเชื่อว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ

ด้านนางสุภรดา วรรณพันธุ์ มารดา และครอบครัวจ่าทหาร ได้เดินทางมาผับที่เกิดเหตุ พร้อมนิมนต์พระสงฆ์จากวัดวังก์พง 4 รูป มาทำพิธีเรียกดวงวิญญาณลูกชายภายในผับโดยคนดูแลผับเถื่อนไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพภายใน โดยมารดาของจ่าทหารกล่าวว่า วันนี้จะมีการรดน้ำศพและสวดอภิธรรมศพ เป็นเวลา 3 คืน แต่จะยังไม่เผาจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม เพราะหัวอกคนเป็นแม่ต้องทำทุกอย่างเพื่อลูกให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี เรื่องที่เกิดขึ้นมันเร็วมาก ขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้กำลังใจ รวมทั้งสื่อมวลชนที่นำเสนอสิ่งที่เกิดขึ้นตามข้อเท็จจริง “คิดว่าลูกชายคงไม่ตายฟรี” ซึ่งแม่ขอความเมตตาจากศาลคัดค้านการประกันตัว

ส่วนบรรยากาศที่ศาลจังหวัดหัวหิน น.ส.บัวบูชา โรจน์ชนะภานิจ ภรรยาจ่าทหาร ค่ายธนะรัชต์ ตลอดจนญาติๆ และเพื่อนทหาร นายทหาร ศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ หัวหน้างานผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ รวมกว่า 10 คน ร่วมยื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นบุคคลมีอิทธิพล เป็นคณะกรรมการที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.หัวหิน มีเงิน รู้จักกับนักการเมืองท้องถิ่น กลัวจะมีการทำลายหลักฐาน และหลบหนี เกรงว่าคดีจะไม่ได้รับความยุติธรรม ส่วนกรณีข่าวลือว่าครอบครัวผู้เสียชีวิตเรียกร้องเงิน ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ครอบครัวเราต้องการเรียกร้องความยุติธรรมให้ผู้เสียชีวิตเท่านั้น และไม่ต้องส่งคนมาเจรจา ส่วนฝั่งของนายเซนมีทนายมา 4 คน

ด้านเพจเฟซบุ๊ก สภ.หัวหิน ได้เผยแพร่ข้อมูลว่า สถานีตำรวจภูธรหัวหิน ได้มีคำสั่งถอน นายเชซน จากการเป็นที่ปรึกษาของ กต.ตร. สถานีตำรวจภูธรหัวหินมีผลตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป และในส่วนของสถานที่เกิดเหตุซึ่งเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด สถานีตำรวจภูธรหัวหินจะรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาสื่อมวลชนลงติดตามบรรดาสถานบันเทิง บาร์เบียร์ต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ทั้งซอยหัวหิน 80 หลังวัดหัวหิน และฝั่งข้ามทางรถไฟ ต่างปิดตรงเวลากันหมด ซึ่งบางร้านบอกว่า มีเจ้าหน้าที่มาขอให้ปิดตามเวลาในช่วงนี้