xs
xsm
sm
md
lg

งามสุดสมชื่อ! “ดอกหงอนนาค”บานแล้ว แต้มสีม่วงอ่อน-ขาว-ชมพู เต็มทุ่งสนสามใบ อช.ภูสอยดาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุตรดิตถ์ – สวยงามสุดสมชื่อจริงๆ.. “ดอกหงอนนาค” บานแล้วกว่า 80% แต่งแต้มสีม่วงอ่อน-ขาว-ชมพู เต็มทุ่งสนสามใบ เพิ่มความอ่อนหวานให้ผืนป่าเขียวสดหน้าฝน อช.ภูสอยดาว บนความสูง 1,633 เมตร


สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) เผยแพร่ภาพความสวยทุ่งดอกหงอนนาค นางเอกแห่งภูสอยดาว ปี 2567 ที่วันนี้(17 ส.ค.) กำลังออกดอกบานแล้ว 80 % เกือบเต็มท้องทุ่งป่าสนสามใบ ทั้งสีม่วงอ่อน ขาว และสีชมพู แต่งแต้มความสวยงามอ่อนหวานให้กับผืนป่าสีเขียวสดใสในฤดูฝนนี้ บนลานสนอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์ สมชื่อทุ่งดอกหงอนนาคใหญ่ที่สุด และสวยงามสุดในเมืองไทย

ทั่งนี้"ดอกหงอนนาค" หรือหญ้าหงอนเงือก หรือน้ำค้างกลางเที่ยง (Murdannia gigantea) เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งที่ออกดอกในฤดูฝน มีหัวหรือเหง้าอยู่ใต้ดิน หน้าแล้งจะแห้งเฉาหายไป แต่เมื่อถึงฤดูฝนก็เริ่มแตกหน่อใหม่ งอกต้นชูดอกกลีบบอบบางอ่อนหวาน ในยามเช้าดอกหงอนนาคจะหุบดอกและจะบานเมื่อมีแสงแดด ส่วนกลางของดอกมักมีหยดน้ำติดอยู่ จึงเป็นที่มาของชื่อ "น้ำค้างกลางเที่ยง"

สำหรับการเดินทางขึ้นไปชมดอกหงอนนาคบนลานสนภูสอยดาว นักท่องเที่ยวจะต้องลงทะเบียน ณ ที่ทำการอุทยานฯ ภูสอยดาว จากนั้นเดินเท้าจากตีนภูขึ้นไปยังลานสนระยะทาง 6.5 กิโลเมตร บนความสูง 1,633 เมตร จากระดับน้ำทะเล ใช้เวลาเดินประมาณ 4-6 ชั่วโมง โดยต้องผ่านเนินต่างๆ ถึง 5 เนิน เป็นเส้นทางขึ้นเขาสูงชันจึงจะถึงลานสน ที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมต้นสนสามใบที่ห่มคลุมไปด้วยสายหมอกและดอกหงอนนาค ที่จะเบ่งบานช่วงปลายเดือนกรกฎาคม-เดือนกันยายน และจะบานสะพรั่งมากสุดในช่วงเดือนสิงหาคม นับเป็นมนต์เสน่ห์ของทุ่งดอกไม้บนภูสอยดาว

ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวที่ชอบแนวผจญภัยได้เดินหลงป่ามาแล้ว แต่ถ้าหากเดินป่าตามป้ายที่ จนท.อุทยานฯเขียนไว้ จะไม่หลงป่าแน่ สามารถเดินเท้าขึ้นไปกางเต็นท์พักแรมชมธรรมชาติบนลานสน อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวตลอดฤดูฝนและฤดูหนาว




กำลังโหลดความคิดเห็น