เลย/ขอนแก่น - ประธานหอการค้ากลุ่มอีสานตอนบนแนะนายกรัฐมนตรีคนใหม่ออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจกลุ่มรากหญ้า ทยอยอัดฉีดเงินเหมือนรัฐบาลลุงต่อ ไม่ต้องใช้งบก้อนใหญ่ เชื่อเป็นกลไกทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อได้ ด้านแม่ค้าต่างผิดหวังเงินดิจิทัลส่อแท้ง
นายณัฐพล เหลืองวงศ์ไพศาล ประธานหอการค้ากลุ่มภาคอีสานตอนบน 1 (5 จังหวัดอีสานตอนบน อุดรธานี เลย หนองบัวลำภู หนองคาย และบึงกาฬ) กล่าวว่า หากประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ไม่ว่าจะมาจากพรรคไหนหรือใคร ในมุมของตนมองว่านายกรัฐมนตรีตอนนี้ ต้องมองในเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก ต้องเข้าใจจริงๆ ว่าวันนี้เกิดเศรษฐกิจตกต่ำ มันส่งผลกระทบกระเทือนไปยังผู้คน สิ่งที่จะต้องทำให้ได้คงต้องไปกระตุ้นเศรษฐกิจกลุ่มคนรากหญ้าก่อน ต้องทำอย่างไรให้เขามีปัจจัย 4 เกิดขึ้น
“ส่วนตัวผมยังชอบนโยบายของรัฐบาลรุ่นก่อนๆ เรื่องของการช่วยเหลือหรือบรรเทาภาระความเดือดร้อนของคนรากหญ้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าน้ำ ค่าไฟ หรือเงินต่างๆ ที่นำมาให้คนรากหญ้า หรือที่เขาแจกให้ 500 บาท ผมว่าอย่างนั้นเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความทุกข์หรือความลำบากของพวกเขา มีการแจกให้ทุกเดือน ไปเรื่อยๆ สิ่งนี้สามารถทำได้เลย ไม่ต้องใช้งบประมาณก้อนใหญ่ก้อนเดียว” นายณัฐพลกล่าว และว่า
กลุ่มรากหญ้ากลุ่มนี้ หากมีเงินเข้ามาในกระเป๋าเขาจะใช้จ่าย เพราะไม่มีกำลังที่จะเก็บเงินไว้ หากเมื่อกลุ่มคนเหล่านี้นำเงินไปใช้ ก็จะเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจทันที แบบนี้น่าจะดีกว่าไปรอเงินก้อนใหญ่ หากมีเงินหมุนแล้วเศรษฐกิจก็จะดีขึ้นทันที อันนี้มันจะเกิดการขับเคลื่อนของเงินอย่างแท้จริง
จากนั้นเครื่องยนต์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย หลักทั้ง 4 ตัว ได้แก่ 1. ภาคการท่องเที่ยว 2. ภาคการส่งออก 3. การบริโภค และ 4. การลงทุน ก็จะหมุนตามมา แต่อย่างไรก็อยากให้ภาครัฐนั้นมีการขับเคลื่อนไปก่อน
ขณะที่นายสำเริง รอดทอง อายุ 46 ปี พ่อค้าใน จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ความกังวลมีมาตั้งแต่ตั้งรัฐบาลชุดที่แล้ว คือเศรษฐกิจไม่ฟื้นตัว และโครงการเงินดิจิทัลคงจะหายไปกับรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ตนไม่ได้รู้สึกอะไร คิดอยู่แล้วว่าไม่ได้ตั้งแต่แรก เมื่อก่อนพรรคที่ได้อันดับหนึ่งพูดแล้วสามารถทำได้ แต่พรรคนี้พูดแล้วผ่านไป 1 ปียังไม่สามารถทำได้ตามที่พูด แต่คนรากหญ้าอื่นๆ คงจะรู้สึก เพราะมีความหวังกับเงิน 10,000 บาทเป็นอย่างมาก
อยากจะฝากนายกฯ คนใหม่ว่า อยากให้พยุงเศรษฐกิจไทยไปให้ดีกว่านี้ เงินเก่าของพ่อค้าแม่ค้าตอนนี้ใช้จนหมดจะไม่มีใช้แล้ว หากถามว่าโครงการนี้จะได้ไปต่อหรือไม่ หากคนของพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นนายกฯ เชื่อว่าไม่ได้ไปต่อ เพราะคนที่ประกาศนโยบายนี้พ้นสภาพไปแล้ว ความหวังโครงการนี้ที่จะได้ไปต่อคงริบหรี่ เพราะขนาดตัวหลักยังทำไม่ได้ ตัวรองก็คงจะไม่ได้เช่นกัน
ด้านนางสาวปัทมา พาพันธุ์เรือง แม่ค้าขายขนมอยู่ในตลาดขอนแก่น กล่าวว่า เรื่องเงินดิจิทัลวอลเล็ตนั้น หากไม่ได้ไปต่อก็คงตั้งหน้าทำมาหากินเหมือนเดิม ต้องดูนายกฯ คนต่อไป หากไม่ใช่นายกฯ ข้ามขั้ว หากยุบโครงการนี้ไปก็คงรู้สึกเสียดาย อยากให้นายกฯ คนใหม่มาดูแลเรื่องเศรษฐกิจให้ดีขึ้น เพราะเศรษฐกิจแย่มาหลายปีแล้วสำหรับคนหาเช้ากินค่ำไม่สามารถมีเงินเก็บได้เลย สำหรับเงิน 10,000 บาท คาดหวังไว้ทีแรกว่าจะนำมาต่อทุน แต่หากโครงการไปต่อไม่ได้ก็คงช่วยเหลือตัวเองต่อไป