พิจิตร - ประมงพิจิตรพาทีมลงพื้นที่ตรวจเข้มฟาร์มจระเข้ เฝ้าระวังกันหลุดบ่อช่วงน้ำหลาก เผยแต่ละแห่งต้องทำกรง-รั้วเพิ่ม หลังพบไอ้เข้เคยเทินตัวเรียงกันเป็นชั้นๆ และพยายามจะปีนหนีมาแล้ว
นายธรรมนูญ แจ่มศรี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดพิจิตร, นายพงษ์พันธ์ สุนทรวิภาต ประมงจังหวัดพิจิตร, นายพิเชษฐ สุพิกุลพงศ์ ปศุสัตว์จังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันลงพื้นที่สุ่มตรวจฟาร์มเลี้ยงจระเข้ของผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ซึ่งมี 11 ฟาร์ม อยู่ในเขต อ.โพทะเล อ.เมืองพิจิตร อ.สามง่าม อ.ทับคล้อ มีจระเข้รวมแล้วทั้งสิ้น 1,438 ตัว เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูน้ำหลากจึงหวั่นเกรงว่าถ้าไม่วางมาตรการที่รัดกุม จระเข้อาจจะหลุดออกจากบ่อที่เลี้ยงไว้ได้
จากการสุ่มตรวจพบว่าฟาร์มจระเข้ทุกแห่งมีการก่อสร้างเป็นบ่อซีเมนต์-กำแพงสูงกว่า 2 เมตร และเทคอนกรีตฝังลึกลงใต้ดินลงไปอีก 2-3 เมตร เป็นแนวกำแพงกั้นเพื่อไม่ให้จระเข้ขุดดินมุดหนีออกจากบ่อได้ รวมถึงด้านบนกำแพงปูนก็มีการติดตาข่ายเหล็กในลักษณะเอียง 45 องศาเข้าไปในบ่อเพื่อป้องกันจระเข้กระโดดหรือปีนป่ายออกจากบ่อที่เลี้ยงไว้ ซึ่งทุกแห่งที่ตรวจล้วนมีมาตรฐานเดียวกัน
นายวุฒิพงษ์ กล้วยหอมทอง หรือ“กำนันกุ้ง” กำนันตำบลท่าขมิ้น อ.โพทะเล จ.พิจิตร ซึ่งทำฟาร์มเลี้ยงจระเข้ไว้ 37 ตัว เล่าว่าที่บ่อเลี้ยงจระเข้ของตนมีการติดกล้องวงจรปิดเฝ้าดูจระเข้ที่เลี้ยงไว้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งก็เคยพบว่าจระเข้มีการพัฒนาการในการที่จะหนีออกจากบ่อที่เลี้ยงไว้ ด้วยการนอนเทินตัวเรียงกันเป็นชั้นๆ แล้วพยายามจะปีนหนีออกจากบ่อที่เลี้ยงไว้ แต่ทำไม่สำเร็จ
เนื่องจากปัจจุบันนี้ผู้ประกอบการมีการสร้างบ่อเลี้ยง กรง รั้ว กันอย่างแน่นหนา และจากประสบการณ์การทำฟาร์มจระเข้มานานนับสิบปีก็ไม่เคยพบเจอว่าจระเข้หนีรอดออกกรงเลี้ยงไปได้ แต่ที่ได้เห็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่พบเห็นพัฒนาการ การต่อตัวของจระเข้ จึงทำให้ต้องมีมาตรการเข้มในการควบคุมดูแลที่เลี้ยงไว้ดังกล่าว
นายพงษ์พันธ์ สุนทรวิภาต ประมงจังหวัดพิจิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า จระเข้เป็นสัตว์คุ้มครอง ผู้ใดจะมีไว้ในครอบครองหรือจะเลี้ยงต้องขออนุญาต รวมถึงถ้ามีแล้วเลี้ยงไม่ไหวจะนำมาปล่อยทิ้งในแหล่งน้ำธรรมชาติไม่ได้ ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ก็ได้ย้ำเตือนผู้ประกอบการว่าถ้าเลี้ยงไม่ไหวก็ห้ามขายให้ชาวบ้านในราคาถูกๆ หรือเอาไปปล่อยแบบปล่อยนกปล่อยปลาไม่ได้เด็ดขาด หากมีปัญหา โทร.ปรึกษาได้ที่ สนง.ประมงจังหวัดพิจิตร 0-5661-1126 ในวันและเวลาราชการ