หนองคาย - รปภ.ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว หนองคาย เล่นโซเชียลเจอโฆษณาชวนทำงานต่างประเทศเงินเดือนเกือบแสน มิจฉาชีพตีเนียนก๊อปรูปบริษัทตัวจริงไปหลอก ต้องขยายวงเงินกู้ ธ.ก.ส.มาโอนให้ ตามไปถึงหน้าบริษัทเจอติดป้ายเตือนอย่าหลงเชื่อ แต่ไม่ทันแล้วสูญเงินไปนับแสนบาท แถมจะขอความช่วยเหลือออนไลน์เจอเพจกันจอมพลังของเก๊ หลอกให้โอนอ้างจะทำเรื่องเอาเงินคืนให้ แต่เจ้าตัวรู้ทันไม่หลงเชื่ออีก เผยมีเพื่อนเสียรู้หลายคนแล้ว
วันนี้ (14 ส.ค. 67) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดหนองคายได้รับการร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากนายสมศักดิ์ พานุรักษ์ อายุ 54 ปี ชาวตำบลพระธาตุบังพวน อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย รปภ.ประจำด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย ให้ช่วยเป็นสื่อกลางในการติดตามเงินคืนหลังจากที่ตนและเพื่อนร่วมงานตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์ โดยได้นำเอกสารหลักฐานการสนทนา หลักฐานการโอนเงินต่างๆ มาให้ดูประกอบด้วย
นายสมศักดิ์เล่าว่า เมื่อประมาณปลายเดือน พ.ค. 2567 ขณะที่ตนเล่นโซเชียลอยู่ ได้เห็นโฆษณาชวนคนหางานไปทำงานภาคการเกษตรที่ต่างประเทศ จึงสนใจและกดลิงก์เข้าไปดู ก็ให้เข้าระบบแอตไลน์ มีหญิงสาวคนหนึ่งอ้างว่าเป็นคนอุบลราชธานี เป็นผู้ติดต่อประสานงาน บอกว่าเป็นพนักงานบริษัทจัดหางานแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ ขอสงวนชื่อ ทางบริษัทกำลังจะจัดหาคนงานไปทำงานภาคเกษตร เก็บผลไม้ที่ประเทศออสเตรเลีย รายได้เดือนละ 90,000-100,000 บาท โดยได้แนบหนังสือรับรองจากกรมการจัดหางาน เพื่อให้เชื่อว่าเป็นบริษัทที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ตนจึงหลงเชื่อ จึงสอบถามรายละเอียดและค่าใช้จ่ายทั้งหมด พนักงานแจ้งว่าค่าดำเนินการทุกอย่างประมาณ 100,000 บาท ตนจึงได้ไปขอขยายวงเงินกู้กับ ธ.ก.ส. ได้เงินมา 250,000 บาท ในครั้งแรก วันที่ 30 พ.ค. 67 พนักงานให้ตนโอนเงินให้ 5,000 บาท เพื่อเป็นค่าตรวจประวัติอาชญากร ใช้เวลา 2 วัน หากไม่พบประวัติอาชญากรก็จะคืนเงินให้ แต่ตนบอกว่าไม่ต้องคืนให้เก็บไว้รวมกับค่าดำเนินการ ครั้งที่สองช่วงเดือน มิ.ย. 67 ให้ตนโอนไป 40,000 บาท เป็นค่าเดินเรื่องทำวีซ่า ซึ่งบอกกับตนว่าจะได้เดินทางเดือน ก.ค. 67
จากนั้นช่วงต้นเดือน ก.ค.พนักงานคนเดิมบอกให้ตนโอนให้อีก 47,000 บาท เป็นค่าอบรมก่อนเดินทางระยะเวลา 5 วัน ตนบอกไปเงินไม่พอ พนักงานจึงต่อรองเหลือ 45,000 บาท แล้วบริษัทจะออกส่วนต่างให้เอง เมื่อตนโอนไปแล้วจึงได้ชวนเพื่อนอีกคนหนึ่งที่หลงเชื่อเหมือนกัน ไปที่กรุงเทพฯ เพื่อจะไปดูบริษัท ก็ไปถึงหน้าบริษัทที่แจ้งมา ปรากฏว่ามีป้ายติดไว้หน้าตู้ยามว่า
“โปรดทราบ!! ระวัง มีมิจฉาชีพแอบอ้างเรียกเก็บเงินโดยให้โอนมัดจำประกันค่าเดินทางไปทำงานต่างประเทศ บริษัทฯ ไม่มีนโยบายให้โอนเงินจองโควตาการสมัครงานใดๆ ทั้งสิ้น หากสงสัยสามารถติดต่อสอบถามฯ และแจ้งเบอร์โทรศัพท์พนักงานไว้”
นายสมศักดิ์บอกว่า เห็นข้อความดังกล่าวก็เริ่มใจเสีย แต่ก็รอจนบริษัทเปิดทำการ และขอพูดคุยกับผู้บริหาร ก็ได้รับคำตอบเหมือนเดิมว่ามีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อของบริษัท โดยทุกครั้งจะหลอกให้คนที่หลงเชื่อโอนเงินจากเคาน์เตอร์ร้านสะดวกซื้อไปในบัญชีรับเงินธนาคารที่แตกต่างกัน ซึ่งให้เหตุผลว่าเพื่อเลี่ยงภาษี รวมแล้วตนสูญเงินไป 90,000 บาท ติดต่อพนักงานหญิงคนเดิมไม่ได้แล้ว โทร.ไปไม่รับ เปลี่ยนเบอร์ใหม่โทร.ไป ปลายทางรับสายแต่คาดว่าจะจำเสียงตนได้ก็ตัดสายทิ้ง
หลังจากเดินทางกลับมาหนองคายแล้ว ตนได้เข้าไปในเพจ กัน จอมพลัง เพื่อแจ้งขอความช่วยเหลือ ก็มีชายคนหนึ่งอ้างว่าเป็นทนาย เมื่อสอบถามรายละเอียดจากตนแล้ว ขอให้ตนโอนเงินให้ 1,000 บาท เป็นค่าดำเนินการดูดเงินคืนมาให้ แต่ตนไม่หลงเชื่ออีก และมารู้ว่าเป็นเพจปลอม เอารูปกัน จอมพลังมาหลอกลวง ตนจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองหนองคายให้ช่วยเหลือแล้ว ซึ่งอยากให้เป็นอุทาหรณ์กับคนอื่นจะได้ไม่หลงเชื่อกลโกงมิจฉาชีพ สูญเงินแบบตนอีก และอยากให้ตำรวจช่วยติดตามเงินคืนให้ด้วย.ง