แม่ฮ่องสอน - “ขุนยวม” ยังอ่วม เจอน้ำป่าหลากท่วมหนักสุดในแม่ฮ่องสอน..หลายหมู่บ้านพื้นที่แม่ยวมน้อยยังถูกตัดขาดสิ้นเชิง หลังกระแสน้ำเซาะจนสะพานถล่ม-ดินสไลด์ปิดทับเส้นทางซ้ำ ชาวบ้านดับสังเวยแล้ว 1 ราย ขณะที่ผู้ว่าฯ ลงพื้นที่บัญชาการช่วยเหลือ ยันไม่มีเหตุแผ่นดินไหวซ้ำ จนลือว่อนโซเชียลฯ เด็ก นร. 40 ชีวิตหนีตายขึ้นเขาขาดน้ำขาดอาหาร
นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ลงพื้นที่ติดตามการซ่อมแซมสะพานข้ามลำน้ำปอน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังถูกน้ำกัดเซาะคอสะพานจนได้รับความเสียหาย ตัวสะพานถล่มลงมาไม่สามารถใช้การได้ ซึ่งที่นี่เป็นเพียง 1 ใน 3 สะพานของเส้นทางที่ถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิงตั้งแต่ 12 ส.ค.เป็นต้นมา
นายณรงค์พัชญ์ นาคทรัพย์ นายอำเภอขุนยวม ได้รายงานว่า ขณะนี้ อบต.แม่ยวมน้อยได้ส่งรถบรรทุกและรถขุดตักเข้าปรับปรุงซ่อมแซมบริเวณคอสะพานเพื่อให้ประชาชนชาวบ้านแม่ซอได้ใช้สัญจรออกจากหมู่บ้านก่อน โดยสะพานแห่งนี้จะเชื่อมระหว่างหมู่บ้านมะหินหลวง หมู่ที่ 8 ไปบ้านแม่ลาก๊ะ หมู่ที่ 6 ต.เมืองปอน อ.ขุนยวม ซึ่งมีความเสียหาย 2 แห่ง
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนกล่าวว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอนมีพื้นที่ประสบอุทกภัยใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอปางมะผ้า อำเภอแม่ลาน้อย และอำเภอขุนยวม โดยอำเภอขุนยวมหนักที่สุด ซึ่งทุกหน่วยงานได้เร่งระดมกำลังช่วยเหลือประชาชนเต็มที่
โดยเฉพาะในพื้นที่ประสบภัยที่อยู่ห่างไกลและทุรกันดาร หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 36 ได้จัดกำลังพล ชุดบรรเทาสาธารณภัยก็ได้ร่วมกับฝ่ายปกครองเข้าดำเนินการสำรวจและช่วยเหลือประชาชน บ้านแม่โกปี่ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม โดยใช้เส้นทาง อ.ขุนยวม-บ.ปางอุ๋ง ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่-บ.หัวแม่ลาก๊ะ ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม แทนเส้นทางเดิมที่เกิดดินถล่ม และดินสไลด์ปิดทับเส้นทาง ซึ่งฝ่ายปกครองได้นำเครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าเปิดเส้นทางจนถึงบ้านหัวแม่ลาก๊ะ แต่ยังไม่แล้วเสร็จ และยังไม่สามารถเข้าถึงบ้านแม่โกปี่ได้จนถึงเวลานี้
ส่วนกรณีมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงอายุ 65 ปี ที่กำลังเฝ้านาแล้วชโงกดูกระแสน้ำจนพลัดตกสูญหายไปกับน้ำป่าจนเสียชีวิตนั้นก็ต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวด้วย และทางเหล่ากาชาดเตรียมเข้าฟื้นฟูเยียวยาให้การช่วยเหลืออีกครั้ง
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนยังได้ยืนยันและปฏิเสธว่าพื้นที่อำเภอขุนยวมไม่ได้มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวจนทำให้เกิดดินถล่มปิดเส้นทางตามที่มีกระแสว่อนในสื่อโซเชียลฯ โดยเฉพาะเส้นทางที่จะไปโรงเรียนบ้านแม่โกปี่ ที่มีการระบุว่ามีเด็กกว่า 40 คนถูกตัดขาดไม่สามารถออกจากโรงเรียนเพื่อกลับบ้านและขาดแคลนอาหาร จนทำให้เกิดกระแสในโลกโซเชียลว่าเด็กอดอาหาร และชาวบ้านกว่า 400 ชีวิตต้องอพยพขึ้นไปอยู่บนเขาทำให้ไม่สามารถขอรับน้ำดื่มได้
ข้อเท็จจริง เด็กนักเรียนทั้ง 40 คนได้กลับบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่โรงเรียนแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ไฟฟ้าและการสื่อสารไม่สามารถใช้การได้ ส่วนเครื่องอุปโภคบริโภคทางจังหวัดและอำเภอ โดย อบต.แม่ยวมน้อย และหน่วยงานต่างๆ ได้นำอาหาร น้ำดื่ม และถุงยังชีพ เข้าไปให้การช่วยเหลือที่บ้านแม่โกปี่แล้ว
“กระแสที่ว่าเด็กๆ ที่หนีน้ำท่วมฉับพลันขึ้นไปบนภูเขาสูง ก็ไม่เป็นความจริง ราษฎรบ้านแม่โกปี่อาศัยอยู่บนเชิงเขาและข้างลำห้วย หวาดกลัวเหตุน้ำป่าไหลหลากและดินสไลด์ทับถมบ้านเรือนของตัวเอง จึงได้อพยพมาขออาศัยนอนที่โรงเรียนบ้านแม่โกปี่เท่านั้น”
ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอนย้ำว่า ฝ่ายปกครองของอำเภอขุนยวมได้เร่งดำเนินการเปิดเส้นทางให้เข้าถึงหมู่บ้าน จากบ้านแม่ลาก๊ะ ถึง บ้านแม่โกปี่ ระยะทางอีกประมาณ 10 กม. เตรียมระดมสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค ส่งต่อในการช่วยเหลือแล้ว นอกจากนั้นยังขอรับการสนับสนุนเครื่องจักรจาก อบจ.แม่ฮ่องสอน เข้ามาดำเนินการช่วยเหลือพื้นที่หมู่บ้าน หมู่ที่ 2-หมู่ที่ 8 ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม ที่มีสะพานเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านชำรุด ดินสไลด์ทับเส้นทางหลายแห่งทำให้ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรเป็นระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้กำลังพลฝ่ายทหารจากหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาทเข้าพื้นที่ให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้วเช่นกัน
